ระยอง-รมว.สธ.ตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีน
รัฐมนตรีช่วยว่าการประทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงและผู้สูงอายุ ซึ่งจัดขึ้นในท้องถิ่น ตั้งเป้าฉีดกลุ่มเสี่ยง 100 เปอร์เซ็นต์ เตรียมเปิดเมืองท่องเที่ยว ย้ำฉีดวัคซีนไขว้ภูมิคุ้มกันขึ้นรวดเร็วต้านสายพันธ์เดลต้าได้
เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่ อาคารอเนกประสงค์เทศบาลตำบลชากบก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมประชาชน ผู้สูงอายุที่เดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลบ้านค่าย
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยง และผู้สูงอายุ ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องการให้ ฉีดครบ 100เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้เดินทางตรวจเยี่ยมทั้งจังหวัดตราด จันทบุรี และระยอง เนื่องจากถ้ามีการฉีดวัคซีนได้ครบก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องตัวเลขของผู้ติดเชื้อ หากมีการติดเชื้อมากก็ไม่เสี่ยงต่องการเสียชีวิต หรือเสียชีวิตน้อยลง ซึ่งการฉีดวัคซีนปกติจะฉีดที่โรงพยาบาลหรือสถานที่ที่จัดไว้ แต่การฉีดเชิงรุกได้จัดให้ฉีดในท้องถิ่นใกล้บ้าน เพื่ออำนวยความสะดวก ผู้สูงอายุไม่ต้องเดินทางไกล และไม่ต้องไปรอคิวเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ จังหวัดที่ประกาศเป็นจังหวัดท่องเที่ยวต้องเร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่องเช่น ประชาชนบนเกาะ และล้งรับซื้อส่งออกผลไม้เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติหรือนิวนอมอล ดังนั้น ในโซนจังหวัดท่องเที่ยว ต้องเร่งดำเนินการทั้งการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยง กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว ส่วนการฉีดวัคซีน แบบไขว้ นั้น ได้มีการวิจัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีข้อมูลว่า การฉีดไขว้ คือเข็มหนึ่ง ซิโนแวค เข็ม2 แอสตร้าซิเนก้า จะทำให้มีภูมิคุ้มกันเร็วกว่าการฉีด แอสตร้าซิเนก้า 2เข็ม นอกจากนี้ ยังพบว่า การฉีดไขว้ มีภูมิคุ้มกันที่สู้กับสายพันธ์เดลต้าได้ ถึง 70เปอร์เซ็นต์ ซึ่งประสิทธิภาพที่ดี ทั้ง2ข้อกระทรวงสาธารณสุขจึงกำหนดให้ฉีดวัคซีนแบบไขว้ในทุกจังหวัด
ขณะที่ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของจังหวัดระยอง วันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รายแรกเป็นเพศชาย อายุ 31 ปี อยู่ ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง มีโรคประจำตัว มะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาเคมีบำบัด เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ระยอง เมื่อวันที่ 24 ส.ค.เสียชีวิตวันที่ 26 ส.ค. รายที่ 2 เป็นเพศหญิง อายุ 75 ปี อยู่ ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตวาย ไขมันในเลือดผิดปกติ และอัลไซเมอร์ เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.นิคมพัฒนา วันที่ 20 ส.ค.เสียชีวิตวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนผู้ติดเชื้อวันนี้พบ จำนวน 449 ราย เสียชีวิตสะสมเพิ่ม 75 ราย ผู้ติดเชื้อสะสมละลอกใหม่เพิ่มเป็น 16,624 ราย โดยพบผู้ติดเชื้อใน 8 อำเภอ อยู่ใน อ.เมืองระยอง 163 ราย อ.แกลง 104 ราย อ.ปลวกแดง 58 ราย อ.บ้านค่าย และ อ.นิคมพัฒนา อำเภอละ 37 ราย อ.เขาชะเมา 17 รา อ.บ้านฉาง 11 ราย อ.วังจันทร์ 6 ราย และต่างจังหวัดเข้ามารักษาตัว 16 ราย ส่วนยอดการฉีดวัคซีนต้านโควิด- 19 ฉีดไปแล้ว 374,481 เข็ม และมียอดจองฉีดวัคซีน จำนวน 363,413 คน