เพชรบุรี-ดต.ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตขณะคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อหัวเมีย

ภาพ-ข่าว:สุรพล นาคนคร

       เกิตเหตุตำรวจชุดสืบสวนสภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ถูกคนร้ายที่ก่อเหตุทะเลาะกับภรรยาตนเองแล้วใช้อาวุธปืนจ่อหัวเพื่อให้กลับบ้าน ขณะเข้าไปตรวจค้นที่ห้องเช่า
        เมื่อเวลา 13.30 น. ร.ต.ท.พัชราวัลย์ ฤทธิชัย ร้อยเวรฯสภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เหตุเกิดบริเวณหน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 1 บ้านห้วยหิน ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาคือ ด.ต.อุดม แถมมี อายุ 49 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 23/6 ถ.คลองเทียน ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นผบ.หมู่สืบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณคางทะลุท้ายทอย และมีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุชื่อนายวิชัย ทวีเดช อายุ 26 ปี ที่อยู่ 12 ม.1 ต.ยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ทั้งสองคนได้ถูกนำตัวส่งยังรพ.ชะอำ ด.ต.อุดม เสียชีวิตในเวลาต่อมาขณะที่นายวิชัย ได้ถูกนำตัวส่งไปรักษาต่อที่รพ.พระจอมเกล้า แต่เสียชีวิตในระหว่างเดินทาง

         จากการสอบถามเพี่อนบ้านใกล้ที่เกิดเหตุเล่าว่า นายวิชัย อาศัยอยู่ห้องเช่ากับภรรยาและมีเรื่องทะเลาะกันทุกวัน สามวันก่อนหน้าเกิดเหตุภรรยาหนีกลับไปอยู่บ้านตนเองที่ ต.ห้วยตะแปด อ.ชะอำ คืนก่อนหน้านายวิชัยไปตามภรรยาให้กลับบ้านและมีการทะเลาะกัน ภรรยาได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจว่า เกิดเหตุทะเลาะกันและสามีใช้อาวุธปืนจ่อหัวตนเอง และต่อมาเหตุการณ์สงบลง ประกอบกับเป็นช่วงเวลากลางคืนกระทั่งวันนี้ ชุดสายสืบของสภ.ชะอำ จำนวน 4 นายสืบทราบว่านายวิชัย ได้เช่าห้องเช่าอยู่ที่บ้านหมู่ 1 จึงเดินทางไปตรวจสอบเนื่องจากทราบว่านายอุดมมีอาวุธปืน แต่ขณะที่นายวิชัยออกมาได้ชักอาวุธปืนยิงตำรวจชุดสืบสวนและเกิดการยื้อแย่งปืนกันกระทั่งกระสุนปืนถูกเข้าที่บริเวณคางของด.ต.อุดม และคนร้ายถูกอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณหน้าอก หลังเหตุชุลมุนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้นำผู้บาดเจ็บส่งไปรักษาตัวที่รพ.ชะอำ และส่งต่อยังรพ.พระจอมเกล้า แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตทั้งคู่                      

        พ.ต.ท.ชูเกียรติ์ เพชรแท้ รองผกก.สส. สภ.ชะอำพร้อมด้วยพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนลูกโม่สองกระบอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุและพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 3 ปลอก หัวกระสุน 1 หัว จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และสอบปากคำผู้ที่เห็นเหตุการรวมทั้งติดตามตัวภรรยาของนายวิชัยมาสอบปากคำต่อไป