เชียงใหม่-ผู้ว่าฯ ติดตามสถานการณ์แม่น้ำปิง หลังน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิงอย่างใกล้ชิด หลังน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ด้านชลประทานที่ 1 คาดการณ์ระดับน้ำปิงจะไม่สูงเท่ากับปี 2554 ที่มีปริมาณน้ำสูงสุดถึง 4.94 เมตร ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ และอย่าตระหนกตกใจ
เมื่อเวลา 23.00 น. ของคืนที่ผ่านมา (2 ต.ค. 65) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายวรญาณ บุญณราช นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 ณ ศาลาอเนกประสงค์ บ้านเด่น แขวงกาวิละ ซึ่งกำลังช่วยกันบรรจุทรายใส่กระสอบ เพื่อแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านที่มีความจำเป็นในการนำกระสอบทรายไปกั้นน้ำไม่ให้เข้าที่อยู่อาศัย พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติงานกันอย่างเต็มกำลัง
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิงที่สถานี P.1 บริเวณสะพานนวรัฐ ซึ่งยังคงมีน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูล ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2565 เวลา 02.00 น. ปริมาณน้ำอยู่ที่ 4.09 เมตร ซึ่งได้เลยจุดวิกฤติที่ 3.70 เมตร มาแล้ว และได้มีการปักธงสีแดงริมแม่น้ำปิง เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำวิกฤติ เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 2 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้ ระดับน้ำจะเกินจุดวิกฤติมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ล้นฝั่งและไม่ไหลเข้าท่อระบายน้ำ โดยยังสามารถควบคุมได้ตามแผน ขั้นที่ 1
ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และคณะ ยังได้เดินทางไปติดตามการรายงานสถาณการณ์น้ำ ณ ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 กรมชลประทาน โดยจากข้อมูลพบว่า สถานการณ์พายุ “โนรู” ได้ส่งผลให้แหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณน้ำเก็บกักสูงขึ้น โดยเฉพาะในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางเกือบทั้งหมดที่มีปริมาณน้ำเต็มความจุอ่างฯ แล้ว
ด้าน นายสุดชาย พรหมมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 เปิดเผยว่า จากข้อมูลเดิม น้ำในแม่น้ำปิง จะล้นตลิ่งเมื่อมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 3.70 เมตร แต่จากความร่วมมือและการดำเนินการของหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันทำพนังกั้นน้ำ เพื่อปกป้องเมืองเอาไว้เกือบทั้งหมด ส่งผลให้ไม่เกิดน้ำไหลเข้าเมือง แม้ระดับน้ำจะเลยจุดวิกฤตดังกล่าวมาแล้ว แต่จะเริ่มล้นตลิ่งที่ระดับสูงกว่า 4.10 เมตร ขึ้นไป พร้อมคาดการณ์ว่า ระดับน้ำปิงจะไม่สูงเท่ากับปี พ.ศ. 2554 ที่มีปริมาณน้ำสูงสุดอยู่ที่ 4.94 เมตร และมีปริมาณน้ำมากถึง 856 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้น จึงขอให้ประชาชน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และไม่ต้องตระหนกตกใจแต่อย่างใด