ประจวบคีรีขันธ์-ด่านสิงขรคึกคัก ผู้ประกอบการเร่งขนถ่ายสินค้าข้ามแดน
ภาพ-ข่าว:ณัฐพัชญ์ วงษ์ประเสริฐ
วันที่ 4 ตุลาคม 2565 ผู้ประกอบการขนส่งหรือชิปปิ้งเร่งถ่ายสินค้าที่จุดขนถ่ายสินค้าชั่วคราวบริเวณเขตโนแมนแลนด์ ด้านหน้าศาลเจ้าพ่อหินกอง ก่อนจุดตรวจช่องสิงขร กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยมีสินค้านำเข้าหลักเป็นอาหารทะเล เช่น หอยแครง ปูทะเล กั้ง กุ้งแม่น้ำ ปลาชนิดต่างๆ จากจังหวัดมะริด ประเทศเมียนมาร์ และผลผลิตทางการเกษตรที่ได้รับการอนุญาตตามกฎหมายเท่านั้น
ซึ่งปัจจุบัน จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรมีเพียงการนำเข้าและส่งออกสินค้าเท่านั้น ยังไม่มีการเดินทางผ่านเข้าออกของยานพาหนะและคน ขณะที่ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้หารือกับประเทศเมียนมาร์ ในการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าเต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมาระหว่างกันมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์คึกคักกว่าปัจจุบัน โดยฝั่งไทยมีความพร้อมเต็มที่ โดยนำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ที่อาคาร ด่านพรมแดนสิงขร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาก่อนสถานการณ์โควิด – 19 จุดผ่อนปรนพิเศษแห่งนี้มีมูลค่าการค้าในปี 2563 สูงถึง 1,400 ล้านบาท แบ่งเป็นนำเข้า 1,200 ล้าน ส่งออก 200 ล้านบาท ล่าสุดเดือนสิงหาคม-กันยายน หลังกลับมาอนุญาตของถ่ายสินค้าชั่วคราว ทางศุลกากรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รายงานให้ทราบว่ามีปริมาณการนำเข้า 144 ล้านบาท การส่งออกเพียง 9.5 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังน้อยอยู่
นายวีระ ศรีวัฒนะตระกูล นายกสมาคมส่งเสริมพัฒนา การค้าการลงทุน ประจวบ – มะริด กล่าวว่า การเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรอีกครั้งถือเป็นข่าวดีของผู้ประกอบการค้าชายแดนทั้งไทยและเมียนมา เท่าที่มีการติดต่อประสานงานกับทางสมาคมการค้าของทางมะเริด ซึ่งนักธุรกิจทางจังหวัดมะริดรู้สึกดีใจเช่นกัน ส่วนในเรื่องบุคคลเข้า-ออก ที่ยังติดขัดในเรื่องของประกาศของฝั่งเมียนมา เชื่อว่าหากเมียนมาพร้อมให้บุคคล-เข้าออก และประกาศออกมาเป็นทางการ ฝั่งไทยเราหรือประจวบฯก็มีความพร้อมเดินทาง-เข้า-ออกได้ทันที ซึ่งหากเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรเต็มรูปแบบ คาดว่าจะมีมูลค่าการค้าชายแดนปีละกว่า 1,500 ล้านบาท