ตาก-ตรวจยึดไม้หวงห้ามแปรรูปจำนวนมากกลางป่าต้นน้ำอำเภอแม่ระมาด
ภาพ-ข่าว:เกษมสันต์ ไชยเดช
ทหารพรานพร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดตากและตำรวจ ปทส.เข้าตรวจยึดไม้หวงห้ามแปรรูปจำนวนมากกลางป่าต้นน้ำอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก หลังชาวบ้านพบกลุ่มขบวนการมีอิทธิพลลักลอบตัดไม้จนเหลือแต่ตอขนาดใหญ่ ชาวบ้านวอนเจ้าหน้าที่เร่งปราบปรามกลุ่มตัดไม้เกรงระบบนิเวศจะเสียในป่าต้นน้ำ
เมื่อเวลา 17.00 น. ( 9 ต.ค. 65 ) พันเอกจักรพงษ์ เทพพันธุ์ ผบ.ฉก.ทพ.35 นำกำลังกองร้อยทหารพรานที่ 3505 พร้อมด้วยตำรวจ กก.4 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามสายที่ 1 สำนักอนุรักษ์ที่ 14 ตาก พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตก.26 ได้สนธิกำลังพร้อมอาวุธครบมือเข้าปิดล้อมพื้นที่ป่าต้นน้ำ หมู่ที่ 1 ตำบลสามหมื่น อำเภอแม่ระมาด อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก หลังชาวบ้านแจ้งแบะแสว่าพบกลุ่มมอดไม้เข้าไปลักลอบตัดไม้หวงห้ามในพื้นที่ป่าหวงห้ามดังกล่าว ที่เกิดเหตุเป็นภูเขาสูงและเป็นป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีต้นไม้อายุนับร้อยปีขึ้นปกคลุมไปทั่วผืนป่าที่เขียวขจี เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปที่จุดที่ชาวบ้านแจ้งข่าวเจ้าหน้าที่ไม่พบกลุ่มผู้กระทำผิดหรือกลุ่มมอดไม้ซึ่งคาดว่าคนดูต้นทางของกลุ่มขบวนการน่าจะส่งสัญญาณให้ทีมมอดไม้หลบหนีรอดการจับกุมไปอย่างหวุดหวิด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ป่าด้วยความระมัดระวังและตรวจพบรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คันถูกจอดทิ้งไว้นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบต้นไม้หวงห้ามอายุนับร้อยปีถูกตัดโค่นจนเหลือแต่ตอและมีการแปรรูปไม้แล้วบางส่วนแต่เจ้าหน้าที่ไม่พบอุปกรณ์การเลื่อยไม้คาดว่ากลุ่มมอดไม้จะไหวตัวเคลื่อนย้ายหลบหนีไปก่อนแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดสามารถตรวจยึดไม้กระยาเลยแปรรูปหวงห้ามจำนวน 53 แผ่น ไม้ขุนป่าและไม้จำปา จำนวน 6 ท่อนขนาดใหญ่ ที่กำลังรอการแปรรูปซึ่งไม้ทั้งหมดถูกซ่อนในพื้นที่ลับตาคิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 150000 บาทส่วนระบบนิเวศน์ไม่สามารถคิดประเมินมูลค่าความความเสียหายได้ เจ้าหน้าที่จึงทำการบันทึกตรวจยึดไม้ทั้งหมดและรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คันไว้เป็นของกลางทางคดีพร้อมช่วยกันนำไม้ของกลางทั้งหมดลำเลียงออกจากป่าเพื่อทำการดำเนินการตีตราตรวจยึดไม้ทั้งหมดไว้เป็นของกลางตามกฎหมาย
สำหรับปฏิบัติการยึดไม้แปรรูปหวงห้ามในครั้งนี้ สืบเนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ป่าต้นน้ำได้ตรวจพบกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้กลุ่มใหญ่ได้ลักลอบนำอุปกรณ์เลื่อยยนต์ลักลอบเข้าไปตัดไม้หวงห้ามโดยตัดทั้งวันทั้งคืนจนเสียงเลื่อยยนต์ดังก้องไปทั่วป่าของหมู่บ้านแต่ก็ไม่มีชาวบ้านคนใดกล้าเข้าไปขัดขวางเนื่องจากกลัวจะได้รับอันตราย ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าต้นไม้จะถูกตัดจนหมดและน้ำในป่าต้นน้ำจะแห้งชาวบ้านจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารพรานพร้อมฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบจนกลุ่มมอดไม้ซึ่งมีคนดูต้นทางตลอดเวลาได้ไหวตัวหลบหนีไปได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจยึดไม้หวงห้ามทั้งหมดไว้เป็นของกลางพร้อมเร่งส่งฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามหากลุ่มผู้กระทำผิดเพื่อจะนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป