ตาก-สกัดขบวนการขนข้าวสารหนีภาษีซุกรถบรรทุก 6 ล้อลอบข้ามแนวชายแดนไทย-เมียนมา

ภาพ-ข่าว:เกษมสันต์ ไชยเดช

             ทหารพราน ฉก.ทพ.35 พร้อมตำรวจ ปทส.จังหวัดตาก สกัดขบวนการขนข้าวสารหนีภาษีจากต่างประเทศซุกรถบรรทุก 6 ล้อลอบข้ามแนวไทยแดนไทย-เมียนมาได้ 100 กระสอบพร้อมจับกุมคนขับรถสารภาพได้ค่าจ้างขนข้าวสารเถื่อนเที่ยวละ 3,000 บาท
             เมื่อเวลา 05.00 น. ( 11 ต.ค. 65 ) พันเอกจักรพงษ์ เทพพันธุ์ ผบ.ฉก.ทพ.35 นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อยทหารพรานที่ 3505 พร้อมด้วยตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ตำรวจ สภ.แม่ระมาด จังหวัดตาก ได้สนธิกำลังออกลาดตระเวนบนถนนเลียบแนวชายแดนไทย-เมียนมา ทางหลวงแผ่นดิน 105 หมู่ที่ 3 ตำบลแม่จะเรา อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก เพื่อตรวจสกัดการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศไทย
               จนเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 71-2234 เพชรบุรี ขับออกมาจากเส้นทางท่าข้ามธรรมชาติติดแนวชายแดนไทย-เมียนมาและขับมาด้วยความเร็วมุ่งหน้าไปบนถนนสายแม่สอด-ท่าสองยาง เจ้าหน้าที่พบพิรุธจึงรีบขับรถสายตรวจทหารพรานออกติดตามเพื่อขอตรวจสอบจนสามารถสกัดและหยุดรถบรรทุกสินค้าคันดังกล่าวได้ที่หลักกิโลเมตรที่ 24 เขตอำเภอแม่ระมาด เมื่อรถหยุดเจ้าหน้าที่พบตัวนายองอาจ ยอดคำภา อายุ 30 ปี เป็นคนขับรถบรรทุกสินค้าคันดังกล่าวตกอยู่ในสภาพตัวสั่นตกใจเมื่อถูกเจ้าหน้าที่สกัดรถของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวลงจากรถและเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดผ้าใบคลุมรถซึ่งคลุมอย่างแน่นหนาและมิดชิดพบว่าภายในรถคันดังกล่าวมีกระสอบข้าวสาร ตราสัญลักษณ์ภาษาเมียนมา ตรวจนับได้จำนวน 100 กระสอบ น้ำหนักรวม 4,700 กิโลกรัม (กระสอบละ 47 กิโลกรัม) โดยข้าวสารทั้งหมดได้ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเมียนมาเพื่อหลบเลี่ยงการเสียภาษีสินค้านำเข้า ประเภทข้าวสารเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนขับรถไปทำการสอบสวนขยายผล
               จากการสอบสวนนายองอาจ ซึ่งเป็นคนขับรถให้การรับสารภาพเบื้องต้นว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างขนส่งสินค้าทั่วแนวชายแดนจังหวัดตาก ก่อนเกิดเหตุตนเองได้รับการว่าจ้างจากเจ้พัชฉัตรชนัน ไม่ทราบนามสกุล ให้ขับรถมารับข้าวสารที่ท่าข้ามธรรมชาติติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา เขตอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก โดยได้รับค่าจ้างขนเที่ยวละ 3000 บาท โดยตนเองไม่ทราบว่าเป็นสินค้าหนีภาษีซึ่งก็ไม่ทราบว่าข้าวสารทั้งหมดใครขนข้ามแนวชายแดนมาซึ่งตนเองเป็นเพียงกลุ่มมดงานที่รับจ้างขนไปส่งที่ตัวอำเภอแม่สอดจากนั้นจะมีกลุ่มมดงานอีกกลุ่มหนึ่งมารับข้าวสารทั้งหมดนี้เพื่อจะส่งกระจายไปให้กลุ่มลูกค้าที่ชอบสินค้าราคาถูกต่อไป ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายองอาจ ว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 242 ฐานร่วมกันนำเข้ามาส่งออกไปราชอาณาจักรซึ่งของยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยไม่ได้รับอนุญาตและมาตรา 246 ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 และได้นำของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ระมาด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป