ประชาชนพอใจมาก-มากสุดต่อความสำเร็จ “ประยุทธ์-จุรินทร์” ในการจัดประชุมเอเปค

ประชาชนพอใจมาก-มากสุดต่อความสำเร็จ “ประยุทธ์-จุรินทร์” ในการจัดประชุมเอเปค

ภาพ-ข่าว:นาหัวไทร

                พลันที่การประชุมสุดยอดผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจ (เอเปค)จบลง โดยมีไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมมีผู้นำระดับโลกเข้าร่วมประชุม พร้อมกับความสำเร็จของข้อตกลงเขตการค้าขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และส่งไม้ต่อให้สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพขับเคลื่อนต่อในการประชุมครั้งต่อ สำนักวิจัยซูเปอร์โพลล์ ก็เริ่มสำรวจความพอใจของประชาชนต่อการจัดประชุมเอเปคครั้งนี้ทันที ซึ่งผลสำรวจพบว่า ประชาชนมากถึงร้อยละ 85.6 พอใจมากถึงมากที่สุด

               โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ประเมิน เอเปค กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 1,156 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ให้รายละเอียดผลการสำรวจ
                เมื่อสอบถามถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยและประชาชนได้รับจากการจัดประชุม เอเปค ในประเทศไทยต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.6 ระบุเกิดประโยชน์มาก ถึง มากที่สุด ในขณะที่ ร้อยละ 10.3 ระบุปานกลาง และร้อยละ 4.1 ระบุน้อยถึงไม่เกิดประโยชน์เลย ที่น่าสนใจคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.5 พอใจมากถึงมากที่สุดต่อ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีผลงานจัดประชุม เอเปคในประเทศไทย ดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด ในขณะที่ ร้อยละ 11.4 พอใจปานกลาง และร้อยละ 6.1 พอใจน้อยถึงไม่พอใจเลย
                 นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.9 พอใจมากถึงมากที่สุดต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ทำหน้าที่หารือกับประเทศต่าง ๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น และอื่น ๆ ในการค้าระหว่างประเทศกับสินค้าไทย เช่น ข้าว กล้วยไม้ และอื่น ๆ และเมื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนในอีก 6 เดือนข้างหน้าต่อเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นกว่านี้ที่เป็นผลพวงจากการประชุมเอเปค ครั้งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.8 เชื่อมั่นมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 22.7 เชื่อมั่นปานกลาง และร้อยละ 11.5 เชื่อมั่นน้อยถึงไม่เชื่อมั่นเลย
                ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่พอใจต่อการจัดประชุมเอเปคในประเทศไทยและพอใจต่อ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจในการทำหน้าที่หารือกับต่างประเทศในด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศโดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตรด้วยการเปิดกว้างในทุกโอกาสสร้างความสมดุลในการเปลี่ยนแปลงหลังวิกฤตโควิด โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นกระแสตื่นตัวไปทั่วโลกด้วยโมเดลเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ที่มุ่งเน้นไปยังการสร้างความสมดุลและเปิดทุกโอกาสในการปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด

               ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า บทบาทสำคัญของการค้าการลงทุนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนในเวลานี้ การลดความเหลื่อมล้ำ การขจัดความยากจน ยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น การปฏิรูปการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่หลังวิกฤตโควิดที่มุ่งเน้นการจัดสภาพแวดล้อมเงื่อนไขทางการค้าและการลงทุนที่เสรี เปิดกว้าง เป็นธรรม ไม่แทรกแซง ไม่เลือกปฏิบัติ มีความโปร่งใสใช้ข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ถูกต้องครอบคลุมและพยากรณ์อนาคตของการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำ เพื่อรักษาความสมดุลของการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจจากการประชุมเอเปคครั้งนี้ที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศร่วมกันเป็นเจ้าภาพกับรัฐบาลจัดงานประชุมเอเปคครั้งนี้ได้สำเร็จเป็นที่พึงพอใจและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนทั้งประเทศตามผลโพลที่ค้นพบครั้งนี้
               แม้ด้านนอกจะมีเวทีคู่ขนานจากภาคประชาชน กลุ่มไม่เอาการประชุมเอเปคจะตั้งหลักชุมชุมอยู่ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และเคลื่อนขบวนออกนอกสถานที่อนุญาตให้จัดชุมนุมเป้าหมายเข้าใกล้สถานที่ประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคให้มากที่สุด แน่นอนว่าจะต้องถูกสะกัดด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ แต่แกนนำการจัดชุมนุมยังพยายามนำมวลชนออกไปจากที่ตั้งจนเกิดการปะทะกัน ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ส่วนประโยชน์ที่ประเทศและประชาชนไทยได้รับจากการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค 2022 มีหลากหลายมิติ มองผ่านนายอนุชา บรูพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคจะสร้างประโยชน์ให้ประชาชนคนไทย มากที่สุดได้อย่างไร ภายใต้หัวข้อ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” หรือ “Open. Connect. Balance.”เอกชนเขตเศรษฐกิจเอเปค เสนอ 69 ข้อ หวังให้ดันเศรษฐกิจ

                 ผลประชุมระดับ จนท.อาวุโส ผลักดันเขตการค้าเสรีกลุ่มเอเปค เสนอเวทีผู้นำ ซึ่งประกอบด้วย 1. ประเด็นหารือเพื่อจะส่งผลให้ช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ธุรกิจทั้งรายเล็กรายใหญ่ได้เข้าถึงประโยชน์จากระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างเต็มที่ การเร่งฟื้นฟูการเดินทางภายหลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคบริการและการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การส่งเสริมเศรษฐกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยั่งยืน และมีความรับผิดชอบผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งจะสร้างประโยชน์ให้เศรษฐกิจไทยในระยะยาว 2. หาช่องทางให้ไทยได้แสดงศักยภาพ และความพร้อมให้โลกได้เห็นผ่านความสำเร็จในการจัดประชุมตลอดทั้งปี ซึ่งไทยต้องจัดการประชุมท่ามกลางความท้าทาย ทั้งโควิด-19 และสถานการณ์โลกที่ผันผวน โดยเฉพาะการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้ ที่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่จัดแบบพบหน้า เป็นโอกาสให้ผู้นำเอเปคได้เดินทางมาพบหน้ากัน  3. หาโอกาสและช่องทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยในสัปดาห์การประชุมเอเปคจะมีผู้นำ และผู้แทนจากต่างประเทศเดินทางมาเยือนไทยประมาณ 3,000 คน และสื่อต่างชาติอีกกว่า 2,000 คน ซึ่งทุกคนจะได้เห็นศักยภาพของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน นำไปสู่โอกาสการค้าและการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น
               นอกจากนั้น จะเป็นโอกาสในการนำเสนอภาพความโดดเด่นทางวัฒนธรรม อาหาร การแสดง และเอกลักษณ์ความสวยงามของไทยจะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งในการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้ ยังมีการประชุมที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ เช่น APEC CEO summit, ABAC, APEC SME ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ไทยได้ต้อนรับผู้นำจากหลายประเทศ ทั้งที่เป็นผู้นำเขตเศรษฐกิจ และเป็นแขกพิเศษ ได้แก่ มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และประธานาธิบดีฝรั่งเศส

              นอกจากนั้น การประชุมเอเปคครั้งนี้จะมีการลงนามความตกลงทวิภาคีที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยอีกหลายฉบับ เป็นโอกาสให้รัฐบาลได้นำเสนอวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งเสริมความยั่งยืน นวัตกรรม ควบคู่ไปกับศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม ซึ่งจัดแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ green meeting เช่น รถยนต์ที่ใช้รับรองผู้นำก็จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในส่วนของการประชุมจะลดการใช้กระดาษให้มากที่สุด นำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการตกแต่งสถานที่ และขยะพลาสติกในงานจะถูกนำไปเข้ากระบวนการรีไซเคิล ผลโพลล์สะท้อนชัดว่าประชาชนพอใจต่อการจัดประชุมเอเปคของไทย พอใจมากถึงมากสุด อันเป็นผลงานของ “ประยุทธ์-จุรินทร์” ด้วยคะแนนมากถึง 85% กว่า

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!