ชลบุรี-“บิ๊กโจ๊ก”ปิดคดีพัทยา เช็คบิลแก๊งจีนคอลเซ็นเตอร์อุ้มตัดนิ้วเรียกค่าไถ่ 37 ล้านบาท

ภาพ-ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี

           “บิ๊กโจ๊ก” บินปิดคดีพัทยา เช็คบิลแก๊งจีนคอลเซ็นเตอร์หักผลประโยชน์-อุ้มตัดนิ้วเรียกค่าไถ่เงิน 37 ล้าน สั่งเพิกถอนวีซ่าขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศ ลั่นเตรียมออกหมายจับนายตู้ห่าว ในวันพรุ่งนี้
                เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 21 พ.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 และ พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา ร่วมกันแถลงข่าว ปิดคดีแก๊งมังกรจีนอุ้มเพื่อนร่วมชาติ ใช้เชือกมัดมือเท้ารุมซ้อม เอากรรไกรตัดนิ้ว ก่อนบังคับให้กลืนลงท้อง จากนั้นได้ส่งคลิปไปให้แฟนสาว เรียกเงินค่าไถ่
               พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ นายเหริน ไห่ป๋อ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวจีน ถูก “แก๊งมังกรจีน” โหด กักขังในหมู่บ้านหรู รั้วรอบขอบชิด สภาพถูกซ้อมทรมาน ใช้ไม้เบสบอลฟาดน่วมทั้งตัว และยังใช้มีดแทงมือ-แขนกรรไกรตัดนิ้วก่อนบังคับให้กลืนลงท้อง จากนั้นได้ส่งคลิปไปให้แฟนสาว เพื่อเรียกเงินค่าไถ่ 37 ล้านบาท เจ้าตัวฉวยโอกาสที่คนร้ายเมายาเค กระโดดหนีลงมาจากชั้น 2 ขอความช่วยเหลือชาวบ้าน
               ภายหลังเกิดเหตุ ได้ส่งทีมสืบสวนจากส่วนกลาง ทำงานร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 ลงพื้นที่คลี่คลายคดีทันที จนกระทั่งสามารถจับกุม นายจาง ตี้หลง หรือต้าเต้า อายุ 30 ปี และนายจาง เหวินเจีย อายุ 25 ปี สองพี่น้องคนร้ายชาวจีนได้สำเร็จ ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหา 1.ร่วมกันเรียกค่าไถ่ 2.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น 3.ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายรับอันตรายสาหัส 4.ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จากการสอบสวน ตำรวจได้ข้อมูลว่า คนเจ็บและกลุ่มคนร้าย มีความสัมพันธ์และรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการทำธุรกิจร่วมกัน และมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่าย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ระหว่างร่วมทำธุรกิจ ทั้งสองฝ่ายได้เกิดความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ เลยเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันภายในกลุ่ม จึงทำให้ฝ่ายสองพี่น้องคนจีน เกิดเสียผลประโยชน์ ในเรื่องเงินทั้งคู่จึงวางแผนก่อเหตุอย่างอุกอาจ เบื้องต้น ทำการเพิกถอนวีซ่า ขบวนการแก๊งคนจีนนี้ทั้งหมด ไม่ว่ากลุ่มผู้เสียหาย หรือกลุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งผลักดันออกนอกประเทศ รวมถึงดำเนินการขึ้นบัญชีแบล็คลิสต์ ในการห้ามเดินทางเข้าประเทศไทย
               สำหรับ ขบวนการคนจีนเหล่านี้ได้มีการยื่นขอวีซ่ายอดฮิตในรูปแบบนักเรียน ในฐานะสมาคม หรือมูลนิธิต่างๆ โดยได้เรียก ผกก.ตม. ประกอบด้วย ตม.แพร่ ตม.อุดรธานี ตม.แขนแก่น ตม.เชียงใหม่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาปฏิบัติหน้าที่ยัง ศปก.ตร.แล้ว เพื่อลงโทษทางวินัย หากตรวจสอบพบการทุจริตจริง ก็จะแจ้งข้อหาในคดีอาญาเพิ่มเติม ขบวนการคนจีนเหล่านี้ ที่ได้ใช้แผ่นดินไทยมาก่อความวุ่นวาย ล้วนแต่เป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีมาจากประเทศจีน โดยการปราบปรามกวาดล้างของประธานาธิบดีจีน นายสี จิ้นผิง จากนั้นฝั่งทางกัมพูชา ถูกกดดันจากรัฐบาลจีนอย่างหนัก จึงทำให้ นายกฮุนเซน จับกุมกวาดล้าง เป็นเหตุให้กลุ่มแก๊งคนจีนเหล่านี้ หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย ขณะนี้ตำรวจไทยได้ทำงานกันอย่างหนัก เพื่อกวาดล้างกลุ่มจีนเหล่านี้ ให้หมดไปจากประเทศไทย
               นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยังกล่าวถึงในคดี นายตู้ห่าว ด้วยว่า ตำรวจจะขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ นายตู้ห่าว ในวันพรุ่งนี้ แต่ขอยังไม่เปิดเผยข้อกล่าวหารายละเอียดใดๆ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐาน

              ผู้สื่อข่าว รายงานว่า หลังจากแถลงข่าวปิดคดีอุ้มตัดนิ้ว เรียกค่าไถ่แล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยังพูดถึงการจับผับคลับวันในพัทยา ไม่เกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว แต่นายตู้ห่าว จะไปเกี่ยวข้องกับ ผับ ท๊อบวัน และ ผับจินหลิง ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะทำการออกหมายจับในคดีของตู้ห่าว แล้ว ยังรวมไปถึงเรื่องของกลุ่มคนจีนทั้งหมดและมีการออกหมายจับเพิ่มอีกประมาณ 8-9 ราย เพื่อดำเนินคดีตามความผิดตาม พ.ร.บ. ฐานสมคบในเรื่องของยาเสพติด ในส่วนของเส้นทางยาเสพติดนั้นชาวสิงคโปร์ ที่นำยาเสพติดที่ชื่อว่าแฮปปี้ วอทเตอร์ ได้ควบคุมตัวไว้แล้ว สอบสวนให้การรับสารภาพว่า เป็นคนผลิตแต่ยังคงปกปิดเส้นทางการส่งยาเสพติดไปจำหน่าย

             นอกจากนี้ ยังจะต้องเตรียมดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ต่ำกว่าชั้นยศ พันตำรวจเอก ที่มีการปล่อยคืนรถของกลาง ซึ่งเป็นรถหรู จำนวนไม่ต่ำกว่า 2 คัน พร้อมเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาในอาทิตย์นี้ต่อไป ซึ่งทาง ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำหากใครกระทำผิดไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ ก็ต้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา เพื่อตอบปัญหากับสังคมได้อย่างชัดเจนต่อไป