ประจวบคีรีขันธ์-‘Peacemaker’ ฝูงเดียวในโลก..! ครบ 50 ปี ผบ.ทอ.เผยปรับปรุงใช้งานได้อีก 15 ปี
ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธานในกิจกรรมครบรอบ 50 ปี การบรรจุเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบที่ 2 (AU-23A) Peacemaker เข้าประจำการในกองทัพอากาศ พร้อมโครงการพัฒนาขีดความสามารถ เพื่อให้มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ มีความทันสมัย และสามารถยืดอายุการใช้งานของอากาศยานได้ต่อไป ที่ ฝูงบิน 501 กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นาวาอากาศเอก สิทธิรัตน์ พู่ทรงชัย ผู้บังคับการกองบิน 5 นำข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานกองบิน 5 ให้การต้อนรับ
เครื่องบินโจมตีและธุรการแบบที่ 2 (AU-23A) Peacemaker ได้ถูกบรรจุเข้าประจำการในกองทัพอากาศ ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.2515 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 50 ปี ที่ได้ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพอากาศในทุกด้าน อาทิ การลาดตระเวนติดอาวุธ การลาดตระเวนทางอากาศ การลำเลียงทางอากาศ การปฏิบัติการฝนหลวง การบินควบคุมไฟป่า การปฏิบัติการจิตวิทยาและยังได้เข้าร่วมการฝึกทางทหารที่สำคัญต่างๆ เช่น การฝึกร่วมผสม COBRA GOLD และการฝึกผสม BALANCE TEAK TORCH ซึ่งถือเป็นตัวแทนของประเทศที่ได้เข้าสู่การฝึกระดับนานาชาติ รวมถึงการปฏิบัติภารกิจในเหตุการณ์สำคัญของประเทศชาติ ทั้งการป้องกันประเทศด้านความมั่นคง และด้านการพัฒนาประเทศ
พลอากาศเอก อลงกรณ์ กล่าวว่า เครื่องบิน Peacemaker เป็นเครื่องบินที่สามารถยืดอายุการใช้งานได้ ไม่เหมือนเครื่องบินขับไล่ F-5 หรือ F16 ที่หากโครงสร้างครบอายุการใช้งานแล้ว ต้องปลดประจำการ และไม่เหมือนเครื่องบิน C-47 Dakota หรือ BT-67 ซึ่งโครงสร้างจะไม่มีผลกระทบกับแรง G ที่มาก ก็สามารถยืดอายุการใช้งานได้
สำหรับเครื่องบิน Peacemaker เมื่ออายุครบ 50 ปี จึงได้นำมาปรับปรุงโครงสร้าง ปรับปรุงระบบภายใน จากหน้าจอแบบเข็ม หรือ ระบะบอนาล็อค มาเป็นระบบดิจิทัล ให้มีความทันสมัยเพิ่มความมั่นใจ ความปลอดภัย ในการบินของนักบินมากยิ่งขึ้น และใช้หลากหลายภารกิจมาก เช่น ลาดตระเวนทางอากาศ ปฏิบัติการฝนหลวง การกระจายเสียงแจ้งข่าวยังประชาชน โดยวางแผนประเมินการใช้งานทุกๆ 5 ปี อย่างน้อย 15 ปี ที่สามารถใช้งานต่อไปได้ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเรานำทรัพยากรที่มีอยู่มาปรับปรุงเพื่อยืดอายุการใช้งาน แทนการซื้อใหม่อย่างเดียว
“สำหรับเครื่องบิน Peacemaker บรรจุเข้าประจำการในกองทัพอากาศไทย เมื่อวีนที่ 14 พ.ย.2515 โดยความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามเวียดนาม จำนวน 33 เครื่อง
ปัจจุบันเหลือเพียง 12 เครื่อง มีปรับปรุงแล้ว 8 เครื่อง เหลืออีก 4 เครื่องอยู่ระหว่างดำเนินการ จะแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2566 ปัจจุบันยังมีคุณค่าการใช้งานทางธุรการอยู่ และ กองทัพอากาศไทยเป็นหน่วยเดียวที่ยังใช้งานเครื่องบินนี้อยู่อย่างคุ้มค่า หรือเรียกว่า ฝูงเดียวในโลกทางทหารที่เหลืออยู่”