เชียงใหม่-อำเภอแม่ออน เตรียมจับมือ อำเภอข้างเคียง ร่วมป้องกันไฟป่าแบบไร้รอยต่อ

ภาพ-ข่าว:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

           อำเภอแม่ออน เตรียมจับมือ อำเภอข้างเคียง ร่วมป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าฝุ่นละออง สอดรับ MOU 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ที่มุ่งทำงานแบบไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพสูงสุด
            วันนี้ (29 พ.ย. 65) นายชลิต ทิพย์คำ นายอำเภอแม่ออน นำส่วนราชการ และหน่วยงานในพื้นที่อำเภอแม่ออน ร่วมการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ สัญจร ณ น้ำพุร้อนสันกำแพง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสื่อสารและประชาสัมพันธ์ถึงการขับเคลื่อนวาระสำคัญของอำเภอแม่ออน และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่
            นายชลิต ทิพย์คำ นายอำเภอแม่ออน ได้เปิดเผยถึงการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่อำเภอแม่ออน ซึ่งเป็น 1 ใน 8 พื้นที่บริหารจัดการพิเศษ ของจังหวัดเชียงใหม่ว่า อำเภอแม่ออน เป็นพื้นที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะด้านป่าไม้ และธรรมชาติ ซึ่งนับเป็นเมืองแห่งธรรมชาติและขุนเขา ด้วยกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่ เป็นพื้นที่ป่า
             ที่ผ่านมา อำเภอแม่ออน ได้ทำงานแบบบูรณาการร่วมกับพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน โดยในปี พ.ศ. 2562-2564 อำเภอแม่ออน มีค่าจุดความร้อน (Hotspot) เฉลี่ย 315 จุด และในปี พ.ศ. 2565 ค่าจุดความร้อน (Hotspot) ลดลงเหลือเพียง 130 จุด ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วน ในการร่วมกันทำแนวกันไฟ ลาดตระเวน รวมถึง “การทำเสวียน” ที่ได้นำเอาเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นของประชาชนมาประยุกต์ใช้ เพื่อทำเสวียนเก็บใบไม้ และนำไปทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ และการให้ประชาชน “นำใบไม้ มาแลกไข่ไก่” ซึ่งเป็นวิธีการลดปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
            สำหรับในปีนี้ อำเภอแม่ออน จะได้มีการหารือเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันกับพื้นที่รอยต่อข้างเคียง ทั้ง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน และอำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เพื่อให้การบริหารสถานการณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สูงสุด สอดรับนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 1 ทั้ง จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ที่ได้ประกาศเจตนารมณ์และทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 แบบไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกันทำแนวกันไฟ และการจัดชุดลาดตระเวน ทั้งนี้ การบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ จะประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชนในทุกพื้นที่และทุกภาคส่วน