เชียงใหม่-รัฐมนตรี สำนักนายกฯ ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในชุมชนบ้านใหม่ล้านนา อ.จอมทอง
ภาพ-ข่าว:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ “สืบชะตาชุมชนบ้านใหม่ล้านนา 25 ปีแห่งการขับเคลื่อนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ชูเป็นต้นแบบการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน มุ่งสร้างความมั่นคงทางชีวิตและความยั่งยืนด้านที่อยู่อาศัยแก่ประชาชน
วันนี้ (21 ธ.ค. 65) ที่ ชุมชนบ้านใหม่ล้านนา ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เป็นประธานเปิดงาน “สืบชะตาชุมชนบ้านใหม่ล้านนา 25 ปีแห่งการขับเคลื่อนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการการดำเนินงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน ก่อนที่จะผลักดันข้อเสนอการแก้ไขปัญหาต่อรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่มั่นคงและมีความยั่งยืนด้านที่อยู่อาศัย โดยมี นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทำการเปิดป้ายชุมชนบ้านใหม่ล้านนา พร้อมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดการที่ดินและทรัพยากรอย่างยั่งยืน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนบ้านใหม่ล้านนา เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับการจัดการที่ดินฯ ในรูปแบบ “สิทธิชุมชน” หรือ “โฉนดชุมชน” และยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมอาชีพ สร้างความมั่นคงทางรายได้และอาหาร ให้มีความมั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริง
โดย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ชุมชนบ้านใหม่ล้านนา ถือเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ยากไร้ ขาดซึ่งที่ดินทำกิน ให้มีที่ดินที่มั่นคง และมีสิทธิครอบครองอาศัยทำกิน จึงขอให้ประชาชนร่วมกันปกป้อง หวงแหนทรัพย์สมบัติสาธารณะของแผ่นดิน เพื่อเป็นสมบัติของลูกหลานในอนาคต
สำหรับชุมชนบ้านใหม่ล้านนา หรือ ชุมชนบ้านพรสวรรค์ เป็นหย่อมบ้านของบ้านอังครักษ์ หมู่ที่ 14 ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการยื่นคำขอเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. 2553 ซึ่งมีพื้นที่ที่ยื่นคำขอเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน ทั้งหมดจำนวน 486 ชุมชน ได้มีการดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนแล้ว จำนวน 224 ชุมชน ทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในที่ดิน กระจายการถือครองที่ดินและลดข้อขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ ได้แล้วกว่าร้อยละ 70