ศรีสะเกษ-ผู้ว่าฯปลื้มผลการประเมินการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจภาคเกษตรของศรีสะเกษสูงถึง 14.7%
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเราขับเคลื่อนวาระ จ.ศรีสะเกษในหลายเรื่องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเรื่องรายได้ของพี่น้องประชาชนผ่านทาง 10 วาระจังหวัด ในการประเมินมีตัวชี้วัดตัวหนึ่งที่สำคัญคือในเรื่องของเกษตรบูรณาการ เพราะว่าเราเป็นเมืองเกษตรต้องการยกระดับรายได้ของเกษตรกรเพื่อให้ดีขึ้น และเมื่อปีที่ผ่านมาทางสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้มีการประเมินผลการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจภาคเกษตร ปรากฏว่า จ.ศรีสะเกษ มีภาพการเจริญเติบโตภาคเกษตรสูงถึง 14.7% ซึ่งสูงที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ซึ่งส่วนใหญ่ช่วงที่ผ่านมานี้ประเทศไทยรวมทั้งทั่วโลกกำลังประสบภาวะวิกฤตในเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ได้ทำให้อัตราการเจริญเติบโตทดถอยภาคต่างๆจะติดลบ แต่ปรากฏว่า จ.ศรีสะเกษสามารถที่จะยกระดับอัตราการเจริญเติบโตภาคเกษตรได้สูงที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อันนี้เป็นสิ่งที่เราขับเคลื่อนวาระจังหวัด แม้ว่าในภาวะวิกฤตเราก็ยังทำการขับเคลื่อนผ่านเกษตรบูรณาการ เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกรให้ดีขึ้นได้ โดยพืชหลักหลักของ จ.ศรีสะเกษ 3-4 ตัวไม่ว่าจะเป็นข้าว หอม พริก กระเทียม ทางภาคการเกษตร ก็ถือว่าประสบความสำเร็จและทำให้อัตราการเจริญเติบโตภาคการเกษตรถือว่าดีกว่าที่คาดหวังเอาไว้
นายสำรวย เกษกุล ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการขับเคลื่อนพัฒนาจังหวัดก็มีหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านรายได้ ด้านอาชีพ ด้านผู้ด้อยโอกาสที่เราก็จะต้องยอมรับว่ายังมีผู้ด้อยโอกาส เช่นด้านที่อยู่อาศัย ด้านรายได้การประกอบอาชีพ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักที่ทาง จ.ศรีสะเกษกำลังดำเนินการอยู่เช่นเดียวกัน โดยพยายามที่จะยกระดับเรื่องของการแก้ไขปัญหาเรื่องผู้ด้อยโอกาส เช่น เรื่องที่อยู่อาศัยปีที่แล้วเราก็มีวาระที่จะต้องทำได้โดยการสร้างบ้านให้กับผู้ยากไร้ด้อยโอกาสตามอำเภอต่างๆในวาระครบรอบ 238 ปีเมื่อสองปีที่ผ่านมา
โดยเมื่อครบ 239 ปี เราก็ได้พยายามหาข้อมูลในส่วนต่างๆเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะในระดับพื้นที่ทางอำเภอทางท้องถิ่นที่ทาง จ.ศรีสะเกษเองก็ผ่านทางกองทุนของจังหวัด เงินจากกาชาดจังหวัด และทางกระทรวงพัฒนาสังคมก็มีเงินส่วนหนึ่งจากกระทรวงมาแต่ว่าเป้าหมายก็ดูร่วมกัน อย่างเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาตนได้รับทราบข้อมูลจากทางสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนก็มีโครงการด้านที่อยู่อาศัยผ่านทางสภาองค์กรชุมชนมาเช่นเดียวกัน ซึ่งก็ลงไปในพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญในการที่จะพยายามแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนผู้ยากไร้ผู้ด้อยโอกาสในด้านที่อยู่อาศัยอย่างเร่งด่วนต่อไป