เพชรบุรี-ทปษ.”ยุทธพล”สั่งสอบด่วนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ บุกจับกุมนายทุนบุกรุกป่า อ้างถูกผู้ต้องหานำคนมาล้อมนำเครื่องจักรหนี
ภาพ-ข่าว:สุรพล นาคนคร
ป่าไม้เพชรบุรีสนธิกำลังกอ.รมน.เพชรบุรี เข้าจับกุมนายทุนใหญ่นำเครื่องจักรและรถบรรทุกเข้าตักดินลูกรังออกไปขาย แต่พบข้อพิรุธไม่อายัดรถแบ๊คโฮและรถบรรทุกซึ่งเป็นเรื่องมือที่ใช้กระทำความผิด จึงสั่งตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดวินัยและอาญาทันที
มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลา 13.30 น. สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี โดยหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ พบ.1(ยางชุม) เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเพชรบุรี ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ป่าถูกบุกรุกขุดตักดินลูกรัง เนื้อที่ 0-1-52 ไร่ ได้ตัวผู้ต้องหากระทำความผิดเป็นชาย 1 คน เหตุเกิดพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านหนองตาฉาว ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาถ้ำเสือและป่าเขาโป่งแย้ พิกัดที่ ๔๗ P ๕๘๓๐๓๑ N ๑๔๐๓๐๘๐ E จึงได้จัดทำบันทึกตรวจยึด/จับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ตามปจว.ข้อ ๖ ลว. ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๘.๔๒ คดีอาญาที่ ๒๙๖/๒๕๖๕ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาสายวันนี้ (21 ธค.65) มีการรายงานไปยังนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อทราบ โดยทปษ.รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการติดตามกรณีการจับกุมดังกล่าวว่า มีการยึดอายัดรถแบ๊คโฮและรถบรรทุกดินด้วยหรือไม่ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำความผิดในครั้งนี้ด้วย นายทองยศ แซ่เอี้ยว หัวหน้าชุดสายตรวจป่าไม้ยางชุมรายงานเบื้องต้นเข้ามาว่า ขณะจับกุมผู้ต้องหาได้พาคนมาล้อมเจ้าหน้าที่และนำเครื่องจักรหลบหนีไป จึงสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาไปติดตามรายละเอียดว่า เกิดจากอะไรจึงไม่อายัดเครื่องจักรที่กระทำความผิด และต่อมามีรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่นำรถแบ๊คโฮและรถบรรทุกไปส่งให้กับพนักงานสอบสวนสภ.ท่าไม้รวก คนขับรถได้ขับรถคันดังกล่าวพร้อมด้วยรถแบ๊คโอหลบหนีไป
นายยุทธพล กล่าวว่า ตนเองโกรธมากเมื่อได้รับรายงานดังกล่าว ก่อนหน้านี้เคยเรียกนายทองทศมาตักเตือนไปแล้วเพราะมีการร้องเรียนเข้ามาถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน คราวนี้มีภาพปรากฎเป็นหลักฐานว่ามีการจับกุมได้ตัวผู้ต้องหาและเครื่องจักรทั้งรถแบ๊คโฮและรถบรรทุกดินที่เจ้าตัวส่งรายงานเข้าไปในกลุ่มไลน์ ทส.จึงได้แจ้งเรื่องไปยังอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ดำเนินการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงทันที หากพบว่า มีกลุ่มนายทุนใช้กำลังคนเข้ามาล้อมและนำเครื่องจักรที่ใช้ในการกระทำความผิดหลบหนีก็ให้ติดตามนำกลับมาดำเนินคดีให้ได้ และหากพบว่า มีเจ้าหน้าที่ในสังกัดร่วมกระทำความผิดด้วยการปล่อยให้มีการนำเครื่องจักรดังกล่าวออกไปโดยไม่ดำเนินคดีอันเป็นการช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ก็ให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและอาญาทันที ล่าสุด ได้รับรายงานว่า มีคำสั่งย้ายให้ไปประจำศูนย์สมุทรสาครภายใน 24 ชั่วโมงและให้ขาดจากตำแหน่งเดิมและให้ตั้งกรรมการสอบตามหลัง.