ปราจีนบุรี-ผวจ.ลงพื้นที่มอบเครื่องตรวจวัดระดับรังสี
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
ผวจ.ลงพื้นที่มอบเครื่องตรวจวัดระดับรังสี
วันที่22มีค.66ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหาดนางแก้ว (อบต.)อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายรณรงค์นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการ นายกอบต.กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีการตรวจพบสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 โดยเมื่อเย็นของวันที่ 19 มีค.ที่ผ่านมามีการตรวจสอบในโรงหลอมเหล็ก ต.หาดนางแก้ว ด้วยเครื่องมือสามารถตรวจสอบพบสารปนเปื้อนในฝุ่นที่ได้จากการผลิตโลหะคือวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ในถุงบิ๊กแบ็ค 24 ถุง รวม 24 ตันที่อยู่ในพื้นที่ปิดของโรงหลอมและมี 1 ถุง มีการนำไปถมบริเวณหลังโรงงาน
เจ้าหน้าที่ปรมาณูเพื่อสันติ จึงให้ทางโรงงานขุดใส่ถุงบิ๊กแบ็คกลับขึ้นมาที่เดิมในโรงงาน ทางจังหวัดได้ประกาศให้กันบริเวณโรงงานเป็นเขตควบคุม ขณะนี้ขอยืนยันว่าซีเซียม-137ที่ปนเปื้อนในฝุ่นโลหะถูกควบคุมและกำจัดอยู่ในพื้นที่เฉพาะ ไม่กระจายออกจากโรงงานและดำเนินการตรวจหาสารปนเปื้อนในร่างกายของพนักงานทุกคนรวม 70 คน ทำการตรวจหาสารปนเปื้อนในร่างกายของพนักงาน แต่ไม่มีสารปนเปื้อนตามร่างกายของพนักงาน ตามหลักวิชาการที่ใช้เครื่องมือตรวจสอบสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติสามารถควบคุมและกรรมจะสารซีเซียม-137 อยู่ในเฉพาะพื้นที่ จากการตรวจสอบยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าซีเซียม137 ที่พบในโรงหลอมเหล็กนี้จะเป็นชิ้นเดียวกับที่สูญหายจากบริษัทในนิคม 304 หรือไม่ ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องก็ติดตามและประเมินผลวันต่อวัน ซึ่งวันนี้ระดมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพอากาศ ดินและน้ำ และมอบเครื่องตรวจวัดระดับรังสีให้กับผู้นำหมู่บ้านเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้เขตโรงงานหลอมเหล็ก
ด้านนายกิตติ์กวิน อร่ามรุณ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติอยู่ในพื้นที่ตลอดเวลามั่นใจว่ายังไม่พบสารปกติแต่อย่างใด เพื่อความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จึงได้มอบเครื่องตรวจวัดระดับรังสีติดตัวไว้ หากมีรังสีเครื่องตรวจวัดจะปรากฏให้เห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ในส่วนรถบรรทุกที่วิ่งเข้าออกในโรงหลอมเหล็กนั้นอยู่ชั้นนอกไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ปิด ซึ่งทางผู้ประกอบการได้มีการตรวจเข้มภายในโรงงานควบคู่ไปด้วย ผู้ประกอบการขอซื้อเก็บเศษโลหะมือสองซึ่งมีความต้องการในท้องตลาดสูงมาก จึงขอประกอบการควบคู่ไปด้วย ลุงสมเดช เอี่ยมสะอาด ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ที่อยู่ใกล้โรงหลอมเหล็ก ได้ปลูกมะม่วงปลูกผลไม้รวมเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อน ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่และซื้อผลไม้จากสวนของลุงอีกด้วย