“ตำรวจไซเบอร์”รวบหนุ่มหลอกขายพระเครื่องคนดัง

“ตำรวจไซเบอร์”รวบหนุ่มหลอกขายพระเครื่องคนดัง

ภาพ-ข่าว:อริย์ธัช พรอัศวโยธิน (บ.ก.ต่าย มเหศวร)

            ตำรวจไซเบอร์ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 รวบหนุ่มหลอกขายพระเครื่องคนดัง มีหมายจับติดตัว 3 หมาย ประวัติยาวเป็นหางว่าว ข้อมูลเชื่อมโยงถึง 11 เคสไอดีมูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท
             วันนี้ (3 เม.ย.66) เวลาประมาณ 13.30 น. นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. , พล.ต.ต. ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1,พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รอง ผบก. สอท.1, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ณัฐภณ จินตะนานุช รอง ผบก.สอท.1,พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1, พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายภัทระหรือฟลุ๊ค ฤทธาภินันท์ อายุ 25 ปี ชาว จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชัยบาดาล ที่ 24/66 ลงวันที่ 30 มี.ค.66 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยทุจริตหรือโดยหลอกหลวง โดยจับกุมตัวได้ที่ ริมถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

            สืบเนื่องจากตามนโยบาย ของพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ให้สืบสวนปราบปรามอาชญากรรม ติดตามผลการดำเนินงานที่เป็นที่เป็นการบูรณาการระหว่าง บช.สอท. กับ สถานีตำรวจ เพื่อขุดรากถอนโคนต้นตอการกระทำความผิด หยุดวงจรอาชญากรรมอย่างสิ้นซาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้ออกสืบสวนติดตามบุคลเฝ้าระวังในโลกออนไลน์พบนายภัทระฯ บุคคลเฝ้าระวังใน www.blacklistseller.com ที่มีประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อนและรายงานบุคคลดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนร้ายมีพฤติการณ์ก่อเหตุสร้างเฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ เข้าไปโพสต์หลอกให้เช่าบูชาพระเครื่องในกลุ่มต่างๆ กว่า 60 กลุ่ม
           เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ชุดจับกุม ได้วิเคราะห์ข้อมูลผ่าน www.thaipoliceonline.com ซึ่งเป็นเวปไซต์รับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีความเชื่อมโยงถึง 11 เคสไอดี ซึ่งมีทั้งที่คดีสิ้นสุดแล้ว, ส่งสำนวนอัยการ, ออกหมายเรียก, อายัดบัญชี, นัดหมายผู้แจ้ง และยังตรวจพบหมายจับของผู้ต้องหาดังกล่าวอีก 3 หมายจับ โดยก่อเหตุต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5 ล้านบาท

          จากการตรวจสอบประวัติพบมี 10 คดี ประกอบด้วย ปี 2564 กระทำความผิดฐาน “ ตัวการฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์  กระทำความผิดฐาน “ตัวการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนฯ ” ท้องที่ สภ.เมืองขอนแก่น กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนฯ” ท้องที่ สภ.แสนสุข ปี 2565 กระทำความผิดฐาน “ตัวการ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์” ท้องที่ สภ.เมืองนนทบุรี กระทำความผิดฐาน “ตัวการฉ้อโกงนำ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ” ท้องที่ สน.สายไหม กระทำความผิดฐาน “ ตัวการฉ้อโกง ” ท้องที่ สน.ทุ่งสอง ห้อง- กระทำความผิด“ ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ท้องที่ สน.สมเด็จเจ้า พระยา- กระทำความผิดฐาน “ตัวการฉ้อโกง,ตัวการการเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ท้องที่ สภ.ชัยบาดาล ปี 2566 กระทำความผิดฐาน “ ตัวการฉ้อโกง ” ท้องที่ สน.ธรรมศาลา กระทำความผิดฐาน “ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ” ท้องที่ สภ.เมืองราชบุรี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
               พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 กล่าวว่า ฝากแจ้งเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อบุคคลที่หลอกลวงขายสินค้าประเภทต่างๆ ในราคาถูก โดยการโอนเงินมัดจำหรือจ่ายเงินค่าสินค้าทั้งหมด โดยที่ยังไม่ได้สิ่งของก่อน เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ได้ ควรตรวจสอบผู้จัดจำหน่ายว่าเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ หรือมีการรับประกันสินค้า ให้เรียบร้อยก่อนการชำระเงิน

              หมายจับของนายภัทระ ฤทธาภินันท์ จำนวน 3 หมาย คือ 1.หมายจับศาลแขวงชลบุรีที่ 149/64 ลงวันที่ 13 ธ.ค.64 ข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง 2.หมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ 251/64 ลงวันที่ 23 พ.ย.64 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง 3.หมายจับศาลจังหวัดชัยบาดาล ที่ 24/66 ลงวันที่ 30 มี.ค.66 ข้อหา ผู้ให้บริการจงใจสนับสนุนหรือยินยอม ให้มีการกระทำความผิด นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสิยหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!