ปราจีนบุรี-วิเคราะห์ศึก ส.ส.สนามช้างชนช้าง! เขตเลือกตั้งที่ 1

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

 “บ้านใหญ่” ตระกูลวิลาวัลย์ ชนกับ “บ้านเล็ก” ตระกูลพากเพียรศิลป์ มีสอดแทรก ด้วย พลัง พรรค “เพื่อไทย”

          เวทีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ปราจีนบุรี (สส.) แบบแบ่งเขต มี 3 เขตเลือกตั้ง โดย เขต 1ประกอบด้วย อำเภอเมืองทุกตำบลอำเภอบ้านสร้างทุกตำบลอำเภอศรีมโหสถทุกตำบล , เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย อำเภอศรีมหาโพธิทุกตำบลอำเภอประจันตคามทุกตำบล อำเภอนาดี 5 ตำบล 1 ตำบลนาดี 2 ตำบลสำพันตา 3 ตำบลสะพานหิน 4 ตำบลบุพพราหมณ์ 5 เทศบาลนาดี และ เขตเลือกตั้งที่ 3 ประกอบด้วยอำเภอกบินทร์ทุกตำบล อำเภอนาดี 2 ตำบล คือตำบลแก่งดินสอ 2 ตำบลทุ่งโพธิ์ กกต.ปราจีนบุรี สรุปรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จังหวัดปราจีนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1-3 วันที่ 3-7 เมษายน 2566 มีผู้สมัครทั้งสิ้น 29 ราย เขต 1 จำนวน 9 ราย เขต 2 จำนวน 9 ราย เขต 3 จำนวน 11 ราย จาก 11พรรคการเมือง
           บทวิเคราะห์ศึก ส.ส.สนามช้างชนช้าง! เขตเลือกตั้งที่ 1ปราจีนบุรี มี นายอำนาจ วิลาวัลย์ พรรคภูมิภูมิใจไทย “บ้านใหญ่” ตระกูลวิลาวัลย์ ชนกับ นายนุกูลกิจ พากเพียรศิลป์ พรรคพลังประชารัฐ “บ้านเล็ก” ตระกูลพากเพียรศิลป์ มีสอดแทรก ด้วย นางกฤษณ์กมล หรือ หมอหนา แพงศรี พรรคเพื่อไทย … พลัง พรรค “เพื่อไทย” เป็นสนาม ที่ค่อนข้างถูกจับตาแทบไม่กระพริบ! …โดย เขตเลือกตั้งที่ 1 (อ.เมืองปราจีนบุรี,อ.บ้านสร้าง,อ.ศรีมโหสถ) มีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ดังนี้ หมายเลขผู้สมัครหมายเลข 1 นายอำนาจ วิลาวัลย์ พรรคภูมิภูมิใจไทย หมายเลข 2 พันตำรวจเอกสมศักดิ์ นารอด พรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 3 นายสุรศักดิ์ หร่ำเดช พรรคเสรีรวมไทย หมายเลข 4 นายไพฑูรย์ นาคหิรัญ พรรคก้าวไกล หมายเลข 5 นายพูลทรัพย์ ไชยสมบูรณ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ หมายเลข 6 นายสัมฤทธิ์ น้ำแก้ว พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 7 นายนุกูลกิจ พากเพียรศิลป์ พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 8 นางกฤษณ์กมล แพงศรี พรรคเพื่อไทย และ หมายเลข 9 นางสาวจิรภัทร์ พานทอง พรรค์ไทยภักดี
           เขตเลือกตั้งที่ 1 นี้ เป็น สนามช้างชนช้าง หรือ คู่ชิงชัย กัน ระหว่าง นายอำนาจ วิลาวัลย์ อดีต สส.ปราจีนบุรี ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย มาเต็ง 1 ชนปะทะกันเต็ม ๆ กับ นายนุกูลกิจ หรือเบนซ์ พากเพียรศิลป์ อดีต ส.อบจ.ปราจีนบุรี ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ และ อีก 1 คน ที่มองข้าม หรือประมาทไม่ได้ คือ นาง กฤษณ์กมล แพงศรี (หมอหนา) พรรคเพื่อไทย

           นายอำนาจ หรือ กบ วิลาวัลย์ อดีต สส.ปราจีนบุรี ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย นั้นบนเส้นทางการเมืองเริ่มต้นจาก การเป็น อดีต ส.ท.เมืองปราจีนบุรี เป็นต่อคู่แข่งในสนามหลายขุม มี ฐานเสียงทางการเมืองยาวนาน จากการเป็นหลานชายของ “นายสุนทร หรือ โกทร วิลาวัลย์” วัย 85 ปี ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) อดีต รมช.สาธารณสุข ส.ส.ปราจีนบุรี 8 สมัยซ้อน และ หลานชายของนางบังอร หรือ ป้าอ้วน วิลาวัลย์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.)ปัจจุบันเป็นประธานสภาวัฒนธรรม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีฐานเสียงครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งจังหวัด

           อีกทั้งในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ฐานเสียงที่มี 16 ชุมชน ก็อยู่ในมือของ “อำนาจ” เพราะเป็นอดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองปราจีนบุรี (สท.) ลงเล่นการเมืองครั้งแรกปี 2543 ลงสมัคร ส.ท.เมืองปราจีนบุรี ได้รับเลือกตั้งติดต่อกันรวม 2 สมัย มีบุตร 1 คน ก้าวเข้ามาเป็น อดีต สส.ปราจีนบุรีรวม 3 สมัย ขยันลงพื้นที่ไม่ขาด ทั้งงานภาคราชการ เอกชน โดยเฉพาะ งานของขาวบ้านไม่ว่าจะยากดีมีจน ขอให้รู้เขาไปร่วมแทบทุกครั้งถ้าว่าง ไม่ว่างานประเพณี งานบุญ งานบวช งานสวด งานศพก็ตาม มีการเผยแพร่ผลงาน –ประชาสัมพันธ์กิจกรรมการเมืองผ่านโลกโซเชี่ยลสม่ำเสมอ ทั้งไลน์ – เฟสบุ๊ค อีกทั้งยังมีเสียงในกลุ่มนักธุรกิจและภาคเอกชนจำนวนหนึ่ง เนื่องจากเคยคลุกคลีอยู่กับแวดวงธุรกิจและยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ น.ส.กนกวรรณ หรือ ครูโอ๊ะ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งจะแพ้ไม่ได้ ได้เปรียบคู่แข่งคนอื่น ๆ ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดรับสมัคร สส.ปราจีนบุรี ทางหัวหน้าพรรค – สส.ภูมิใจไทยได้มาลงพื้นที่ปราศรัย ย้ำถึงประวัติ-ผลงาน – ชูนโยบายให้เลือกคน – เลือกพรรคมาก่อนแล้ว อาทิ ถนน 4 เลน 8 เลนส์ ที่เห็นเป็นรูปธรรมในพื้นที่ซึ่งกำลังขยาย ทั้งสายสุวินทวงศ์ (ปราจีนบุรี – ศรีมโหสถ) หรือสาย 319 และ สายบ้านสร้าง- ปราจีนบุรี
           ด้านคู่แข่งคนสำคัญ อันดับ 2 รองลงมา คือ นายนุกูลกิจ หรือ เบนซ์ พากเพียรศิลป์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นขวัญใจเด็กวัยรุ่น – ผู้กว้างขวางวงการสถานบันเทิงของ จ.ปราจีนบุรี มี ลุง – อา พ่อ – แม่ ที่ล้วนเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เป็นฐานเสียงสำคัญคือ เป็นลูกชายของนายบุญเกื้อ หรือเล็กน้ำ พากเพียรศิลป์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ,นางธนวรรณ หรือ ซ้อแต พากเพียรศิลป์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปราจีนบุรี คนล่าสุดปัจจุบัน มารดา มี อาคือ นายสมดุลย์ พากเพียรศิลป์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรอบเมือง (อบต.) อ.เมืองปราจีนบุรี มีอาคือ นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ อดีต สส.ปราจีนบุรี เป็นอีก 1 ฐานเสียง และ อีก 1 ปัจจัย ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรีนั้น พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคยเป็นอดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร.2 รอ.) คุมหน่วยรบ “บูรพาพยัคฆ์” มาก่อน และ ในพื้นที่แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของค่ายทหารขนาดใหญ่ หรือเมืองทหาร 2 ค่าย ทั้ง ค่ายพรหมโยธี และ ค่ายจักรพงษ์ พลังสีเขียว หรือ ทหารทั้ง 2 ค่าย จึงเป็นอีกตัวแปร – ฐานเสียง แบบซ้าย –ขวาหัน ที่เป็นแรงหนุนให้นายนุกูลกิจ หรือ เบนซ์ ได้คะแนนเสียงแบบชนิด ทิ้งโดด! ถล่มทลายทั้งค่าย – ครอบครัวทหาร!
            โดยในอดีตนายนุกูลกิจ หรือเบนซ์ ผ่านเวทีการเมือง เคยเป็นอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (ส.อบจ.) เคยเป็นผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรีพรรคพลังประชารัฐมาก่อน จากที่เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ขวัญใจกลุ่มวัยรุ่น ฐานเสียงในเขตตัวเมืองปราจีนบุรีแน่น มีโอกาสพลิกล็อคชนะได้ทุกโอกาส แต่ในส่วน ของพื้นที่อำเภอบ้านสร้าง ,อำเภอศรีมโหสถ นั้น ตระกูลพากเพียรศิลป์ ซึ่งเป็นบ้านเล็ก ยังก้าวล่วงไปไม่ถึงเท่า บ้านใหญ่ แห่ง ตระกูล “วิลาวัลย์” ได้ โดยผู้ตัดสินคือ ประชาชน! ที่จะเรียกร้องให้มีการแก้ไขภาวะข้าวยากหมากแพงปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ จะเอาใคร กันแน่ ขณะที่ นาง กฤษณ์กมล แพงศรี (หมอหนา) พรรคเพื่อไทย ก่อนหน้าผ่านเวทีในการหาเสียงหลายสนามอาทิ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) คะแนนมาอันดับ 2 , ผ่านเวทีผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรี ในนามพรรคก้าวหน้า ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 มาแล้วเช่นกัน แต่มาครั้งนี้คงเป็นเบอร์อันดับรองอีกครั้งไม่มาเป็นเต็งหนึ่ง! แม้จะอยู่ พรรคเพื่อไทย ซึ่งที่เพิ่งมาสวมเสื้อสีแดงนี้หมาด ๆ ที่ ชาว นปช. หรือ คนเสื้อแดงในพื้นที่ ไม่ปลื้ม! เท่าใดนัก เพราะในอดีตหมอหนานั้น สวมเสื้อสีส้มของอนาคตใหม่หรือ พรรคก้าวไกล ปัจจุบันมาก่อน ไม่ได้ร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับทางคนเสื้อแดงในพื้นที่

            แต่ นาง กฤษณ์กมล หรือ หมอหนาเอง แม้จะพลาดหวังเวทีเลือกตั้งสนามเล็ก – สนามใหญ่ ก็มีฐานเสียงของตนเอง มีการลงพบปะ การสื่อสารผ่านโลกโซเชี่ยล ผ่านหน้าเฟส การวิ่งรถแห่ประชาสัมพันธ์แนะนำตัว การติดป้ายตามรถตุ๊กๆ สามล้อ ที่วิ่งทั่วเมือง และ ยังขึ้นป้ายโปสเตอร์มาก่อนหน้านี้ เช่นกัน แต่ในความแรงของเพื่อไทย โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร หรือ อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และ หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ได้มีการโหมป้ายโปสเตอร์สื่อสารทางการเมืองสู่ประชาชนโดดเด่น พรึ่บพรั่บ! ในทุกตรอก – ซอกซอย – ถนนสายหลัก – สายรอง ในการมุ่งมั่น – พลิกฟื้นเศรษฐกิจ  อาจเป็นพลัง –ตัวแปร! ผลักดัน นาง กฤษณ์กมล หรือ หมอหนา ก้าวข้ามช็อต – สานฝัน สู่ การเป็น สส.ปราจีนฯเขต 1 ได้ในพริบตา! เช่นกัน โดยหมอหนา มีฐานเสียงที่สำคัญคือ ในพื้นที่ เขต อ.ศรีมโหสถ ที่ทำงานเดิม แต่ ในพื้นที่ เขตทหาร อ.เมืองปราจีนบุรี และ เขต อ.บ้านสร้าง คงฝ่าด่านแข็ง ของ บ้านใหญ่ วิลาวัลย์ กับ บ้านเล็ก พากเพียรศิลป์ ไปไม่ผ่าน !!!

            บนบทวิเคราะห์สนามเลือกตั้ง สส.เขต 1 ปราจีนบุรี นี้ ไม่สำคัญ! เท่ากับ อำนาจ แห่งอธิปไตย ของประชาชน ผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง ที่จะทำการ ตัดสินใจเลือก บุคคล หรือ เลือกพรรค ที่จะเข้าไปทำหน้าที่แทนตัวเอง ในรัฐสภา