ประจวบคีรีขันธ์-นอภ.หัวหินประสานกรมชลฯเร่งช่วยเหลือชาวสวนปัญหาทุเรียนป่าละอูยืนต้นตาย
ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่า จากปัญหาชาวสวนทุเรียนหมู่ 3 บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ขณะนี้ประสบปัญหาต้นทุเรียนยืนต้นตายเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบความเสียหายกับผลผลิตทุเรียนป่าละอูที่จะเก็บจำหน่ายในช่วงเดือนกรกฏาคม- สิงหาคม นี้ และทำให้ชาวสวนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินที่กู้ยืมมา หลังทราบเรื่อง ตนพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุของปัญหาพบว่าเกิดจากน้ำในอ่างเก็บน้ำส่งไปไม่ถึงปลายทาง ซึ่งการใช้น้ำของชาวสวนทุเรียน หมู่ 3 บ้านป่าละอู จะใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลาซึ่งตอนนี้ทางกรมชลประทานมีการเพิ่มเติมอ่างเก็บน้ำแล้วก็มีการทำการซ่อมแซมเพื่อรองรับฤดูฝนนี้ ซึ่งการใช้น้ำที่ผ่านมาก็ทำโดยการใช้กาลักน้ำซึ่งจะมีอยู่ 2 ตัว มีกาลักน้ำของชลประทานขนาด 12 นิ้วจำนวน 1 ตัว เป็นการลักน้ำหลักในการดูดน้ำจากเขื่อนแล้วก็ส่งผ่านช่องทางท่อส่งน้ำตามธรรมชาติไปให้เกษตรกร กาลักน้ำตัวที่ 2 ขนาด 8 นิ้วเป็นของหมู่บ้านเองซึ่งเอามาช่วย เพราะปัจจุบันมีการทำสวนปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ประกอบกับอากาศร้อนเป็นช่วงที่ทุเรียนต้องการน้ำไปเพิ่มความชุ่มชื้นมาก ฉะนั้นปริมาณการใช้น้ำก็เพิ่มมากขึ้นตาม
ก่อนหน้านั้นได้รับทราบว่ากาลักน้ำขนาด 12 นิ้ว เกิดมีปัญหาไม่ทำงานเนื่องจากจุดที่ทำการสูบน้ำ ปริมาณน้ำแห้งลดลงไปทำให้สูบน้ำไม่ขึ้นเป็นผลทำให้มีลมเข้าระบบ ซึ่งขณะนี้ทางกรมชลฯกำลังเร่งซ่อมแซมเมื่อแล้วเสร็จลองเดินระบบแต่กำลังไม่เพียงพอ ตอนนี้ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากกรมชลประทานมาแก้ไขระบบให้ ในขณะที่ระบบยังไม่สมบูรณ์ก็มีการเดินเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว ทดแทนไปก่อน ปัญหาที่ผ่านมาที่ต้นทุเรียนเหี่ยวเฉาแห้งก็คือ กำลังการส่งน้ำเหลือแค่ท่อ 8 นิ้ว ซึ่งมันไม่เพียงพอ เราก็เสริมปัจจัยต่างๆ โดยนำน้ำในเขตก่อสร้างที่เป็นส่วนเกินสูบกลับเข้าไปในระบบ แล้วก็ให้ทาง ปภ.ช่วยอัดน้ำจากหน้าฝายเข้าร่องระบายน้ำของหมู่ 3 ให้เกษตรกรที่มีปัญหาตรงนี้ แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาด้วย เพราะว่าน้ำเป็นของหลายหมู่บ้านต้องใช้ร่วมกัน เพราะฉะนั้นการนำน้ำอัดที่หมู่ 3 จะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาอันสั้น
ล่าสุดขณะนี้น้ำถึงท้ายน้ำแล้วต้นทุเรียนที่หงิกงออยู่และกำลังจะตายก็น่าจะพอจะช่วยได้และทางเกษตรอำเภอได้เข้าไปให้ความรู้ในเรื่องของการใช้น้ำ และพบว่าชาวสวนบางรายยังใช้น้ำอย่างไม่จำกัด คือ มีน้ำปุ๊บก็รีบใช้ รีบเอาไปรด ทำให้เกิดปัญหาที่ว่าต้นน้ำได้น้ำมากกว่าปลายน้ำ จึงตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำและพร้อมใจกันคอย เมื่อน้ำผ่านมาจะยังไม่รีบดูดน้ำขึ้นมาใช้ คอยจนน้ำขึ้นเต็มจนได้ระดับแล้วถึงค่อยสูบไปใช้ แบ่งเวลากันสูบ แบ่งเวลากันใช้ อันนี้เป็นผลจากการประชุมร่วมกับผู้ปกครองท้องที่ที่ได้เข้าไปพูดคุยกับชาวสวนทำความเข้าใจ ส่วนในอนาคตถ้าเขื่อนป่าละอูสร้างเสร็จแล้วก็จะทำให้ปัญหาเรื่องการส่งน้ำหมดไป