ร้อยเอ็ด-เครือข่ายป.ป.ช.ขับเคลื่อนแกนนำชุมชนต้นแบบ เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ภาพ-ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน
เมื่อช่วงเช้าวันที่19 เม.ย. 2566 ที่ ศูนย์ประชุมสุวรรณภูมิ แกรนด์ โรงแรมวันโอวัน ร้อยเอ็ด ต.รอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นายวีระ ศรีคำ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปราบปรามการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ประธาน พร้อมด้วย ดร.อวยชัย วะทา ประธานที่ปรึกษาโครงการฯ เปิดโครงการพัฒนาผู้นำต้นแบบ และชุมชนต้นแบบในการปกป้องสาธารณะสมบัติของแผ่นดินและการป้องกันปราบปรามการทุจริตจังหวัดร้อยเอ็ดอย่างยั่งยืน ระยะที่ 2 โดยการดำเนินงานของ ดร.อุปกรณ์ ดีเสมอ ประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมภาคอีสาน จังหวัดร้อยเอ็ด และคณะ
ดร.อุปกรณ์ ดีเสมอ ประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมภาคอีสาน จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2566 จำนวน 808,800 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างชุมชนต้นแบบ และพัฒนาผู้นำ และแกนนำชุมชนต้นแบบในการปกป้องสาธารณะสมบัติของแผ่นดินและการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในจังหวัดร้อยเอ็ด แบ่งการดำเนินกิจกรรมออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ภาควิชาการเป็นการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติเพื่อให้แกนนำชุมชนต้นแบบ จำนวน 300 คน ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในรูปแบบตาง ๆ มีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นระหว่างวิทยากร กับผู้เข้ารับการอบรม
ส่วนระยะที่ 2 เป็นการลงพื้นที่เพื่อสังเกหรือเฝ้าระวัง และการสอบตรวจโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ของหน่วยงาน ไม่น้อยกว่า 400 โครงการ มีการตรวจสอบที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เพื่อป้องกันการบุกรุก แผ้วถางการฉกฉวยเอามาเป็นประโยชน์ส่วนตน หรือการทำลายล้างในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น
สำหรับการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในวันนี้ มีผู้เข้าอบรม จำนวน 300 คน มาจากทุกอำเภอ 20 อำเภอ มีกำหนด 1 วัน โดยได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และจากภาคประชาสังคม นักวิชาการ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด และอดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด
นายวีระ ศรีคำ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปราบปรามการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ประธาน กล่าวว่า หวังว่าทุกท่านจะได้นำเอาความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปประพฤติ ปฏิบัติในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนโดยรวม หากชุมชนปราศจากการทุจริตทุกรูปแบบ ก็จะทำให้ชุมชนนั้นมีแต่ความสงบสุขร่มเย็นน่าอยู่อาศัยตลอดไป ในส่วนของกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริดแห่งชาติ จะพยายามจัดสรรเงินกองทุนให้แก่ องค์กรของรัฐ หรือเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการให้ได้มากที่สุด ส่วนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด หรือสำนักงาน ป.ป.ช..ภาค 4 ก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุนตลอดไป