สระบุรี-รถพ่วงปูนเต้า ซิ่งมาด้วยความเร็วปาดหน้ารถเก๋ง เสียหลักชนตอหม้อใต้สะพาน..พังยับ..!!

สระบุรี-รถพ่วงปูนเต้า ซิ่งมาด้วยความเร็วปาดหน้ารถเก๋ง เสียหลักชนตอหม้อใต้สะพาน..พังยับ..!!

ภาพ-ข่าว:สมภพ พิมมะศร

            วันที่ 21 เม.ษ.66 เวลา 09.00 น. รตอ.สาโรจน์ รัตนวิโรจ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามี รถพ่วงปูนเต้าชนกับรถเก๋งอัดอยู่กับตอหม้อใต้สะพานทางเดินเกาะกลางถนน หน้าขนส่งจังหวัดสระบุรี ถ.มิตรภาพขาเข้ากทม. ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระบุรี จึงได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระบุรี
             เมื่อไปถึง พบ รถพ่วงปูนเต้า ทะเบียนหน้า 72-3075 สระบุรี ทะเบียนหลัง 72-3457 สระบุรี อยู่ในสภาพ พังยับเยิน พ่วงหลุดชนอยู่กับตอหม้อ ใกล้กันพบ รถเก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า จี๊ป สีดำ ทะเบียน 3ขณ7779 กรุงเทพมหานคร อัดอยู่ติดกับรถพ่วงปูนเต้า สภาพ พังเสียหายเกือบทั้งคัน ในบริเวณที่เกิดเหตุ มี ต้นไม้โคล่นล้ม 1 ต้น เสาไฟหัก 1 ต้น และมีชิ้นส่วนรถกระจายเกลื่อนถนน ทำให้การจราจรขาขึ้นขาร่องมีรถติดยาวเป็นกิโล
          ต่อมาพบ นาย สมนึก ใจหวัง อายุ 73 ปี เป็นคนขับรถปูนเต้า นั่งอยู่ด้วยอาการมึนงง ตามร่างกายมีบาดแผล เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจึงได้รีบนำตัวส่งรพ.สระบุรี และยังพบ นาย จิรพัฒน์ ธรรมรงค์เชาวลิต อายุ 56 ปี คนขับรถเก๋งจี๊ป เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พาไปนั่งอยู่ริมฟุตบาท และปฐมพยาบาลให้ที่บริเวณแขนขวา มีบาดแผลเล็กน้อย ถัดไปยัง พบ รถบัสรับ-ส่งผู้โดยสาร หมายเลขทะเบียน 10-7329 อุดรธานี ขับสวนมาอีกเลนหนึ่งมุ่งหน้าเข้าโคราช สภาพ ด้านหน้ารถบุบ ได้รับความเสียหายไม่มากนัก ทราบชื่อคนขับ นาย สมปอง มุงคุลแสง อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกภาพทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน และจะเชิญตัวคู่กรณทั้งหมดไปสอบปากคำ และจะดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุต่อไป
           เบื้องต้นทราบว่า รถพ่วงปูนเต้า ได้ขับรถอยู่บน ถ.มิตรภาพมุ่งหน้าเข้ากทม.เลนกลาง จู่ๆเสียหลักหักเข้าเลนขวาไปชนกับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าจี๊ปสีดำ ที่วิ่งอยู่เลนขวา แล้วพุ่งไปชนกับตอหม้อใต้สะพานทางเดินเกาะกลางถนน ถ้าไม่ชนก็ตอหม้ออาจจะข้ามฝั่งไปชนรถที่วิ่งสวนมุ่งหน้าเข้าโคราช ขณะเดียวกันได้มีรถบัสรับ-ส่งผู้โดยสาร ซึ่งจะมุ่งหน้าไปรับผู้โดยสารที่จ.อุดร ได้ชนเข้ากับถังเหล็กที่กลิ้งมาขวางอยู่กลางถนน ได้รับความเสียหายที่หน้ารถ จากนั้นได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ มีก๊าซไหลรั่ว จากรถพ่วงปูนเต้า จึงได้รีบแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังรถดับเพลิงเทศบาลต.ตะกุด ได้รถ 2 คัน มาคอยระงับเหตุ เนื่องจากอาจจะเกิดระเบิดหรือไฟลุกไหม้จากก๊าซได้ ด้วยความเร็วของเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่าง ได้รีบไปปิดหัวก๊าซไว้ได้ทัน ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนขับรถปูนเต้าน่าจะวูบหรือไม่ก็หลับใน แต่อย่างไรก็ตาม จะได้ดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุการชนที่แท้จริง และจะสอบสวนพยานที่เห็นเตุการณ์ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ต่อไป
            นายสมปอง มุงคุลแสง (คนขับรถบัส) เล่าว่า ตนเองขับมาด้วยกัน 2 คน วิ่งมาจากหมอชิต จ.กรุงเทพฯ เพื่อจะตีรถไปรับผู้โดยสารที่ จ.อุดร พอมาถึงที่เกิด เหตุ ตนเองไม่ได้มองรถฝั่งนู้น แต่ตนเห็นตอนที่ชนกันดังตู้ม และขี้ฝุ่นมันก็กระจายขึ้น ซึ่งขณะนั้นมีรถของตนแค่คันเดียว จึงขับออกซ้ายได้ เพราะถ้าไม่ออกซ้ายตนก็จะชนพวกนี้ด้วย พอตนขับออกไป ก็ไปชนกับเหล็กของรถพ่วง ที่วางอยู่ตรงเส้นขาว ตนตกใจ จึงต้องหักออกซ้ายไป เพราะถ้ามีรถซ้ายก็จะชนกันเยอะอยู่
             นายจิรพัฒน์ ธรรมรงค์เชาวลิต (คนขับรถเก๋งจี๊ป) เล่าว่า ตนเองมาจากสุภาลัยป่าสักรีสอร์ท จะขับมุ่งหน้ากลับบ้านที่กรุงเทพ ตนเองขับรถอยู่เลนขวา โดยมีรถบรรทุกปูนอยู่ข้างหน้าซ้าย จู่ๆเขาก็ปาดหน้ากระทันตัดหน้าตนเลย ซึ่งตนก็เบรกไม่ทัน จากนั้นรถพ่วงก็ไปชนกับตอหม้อ และรถเขาก็ไถลดันรถตนไปชนกับเกาะกลาง จนรถของตนไปขึ้นไปอยู่เกาะกลาง แล้วรถพ่วงชนกับตอหม้อจนหยุดนิ่ง ส่วนรถของตนได้รับความเสียหายหนัก และตนได้รับบาดเจ็บที่แขน แต่ไม่เป็นอะไรมาก เนื่องจากในรถมีพระหลวงปู่ทวดตั้งไว้ข้างหน้ารถ ตนคิดว่าท่านช่วยเอาไว้ ส่วนรถพ่วงปูนเต้าคงจะหลับใน เพราะเมื่อกี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาวีดี โอมาให้ดู ซึ่งรถเขามาเร็วมากและจู่ๆก็ตัดหน้าไปเลย น่าจะหลับในแน่นอน เพราะเท่าที่ดูจากเวลาวีดีโอซึ่งมันเร็วมาก มาจากเลนซ้ายสุดเพราะจู่ๆเขาก็ฟึ่บไปเลย ส่วนคนขับรถพ่วงปูนเต้า ตนไม่แน่ใจ เขาน่าจะทะลุกระจกออกมา เพราะมีเลือดเต็มหน้า เต็มตัว แต่เห็นเขาบอกเดินได้ เพราะไม่ได้โดนอะไรมาก กำลังรอเอ็กซ์เรย์อยู่ แต่ตนไม่ได้เป็นอะไรมาก

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!