ปราจีนบุรี-ไล่เจ้าอาวาสเรื่องเงินวัด 3 ล้านบาท

ปราจีนบุรี-ไล่เจ้าอาวาสเรื่องเงินวัด 3 ล้านบาท

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

         วันนี้ 2 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวจ.ปราจีนบุรีรายงานว่า ที่วัดหนองคล้า หมู่ที่ 7 ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านร่วมกับพระครูธรรมโสภิต เจ้าคณะตำบลหนองกี่เขต 2 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เจ้าอธิการอุกฤษ นัตฐิโก เจ้าคณะตำบลวังตะเคียนเขต 1 เพื่อรับฟังปัญหาเจ้าอาวาสวัดกับชาวบ้าน โดยชาวบ้านได้ให้นายบรรดิษฐ์ แก้วเคน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 เป็นตัวแทนชาวบ้าน ทำหนังสือถึงเจ้าคณะตำบลขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระอธิการศุภชัย สุชาโต เจ้าอาวาสวัดหนองคล้า เนื่องด้วยผู้ใหญ่บ้านได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหนองคล้าซึ่งมาทำบุญที่วัดหนองคล้า ต.วังตะเคียน ทางคณะสงฆ์ในเขตปกครองของเจ้าคณะตำบลหนองกี่เขต 2 ถึงพฤติกรรมต่างๆซึ่งไม่เหมาะสมของเจ้าอาวาสวัดหนองคล้า ทำให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธาและอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาได้ จึงได้ให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแทนการร้องเรียนซึ่งมีมูลเหตุในเรื่องต่างๆดังนี้
           1.ยืมเงินจากนายไพโรจน์ ลิ้มแก้ว เป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท โดยไม่มีความสามารถจะคืนเงินจำนวนดังกล่าวได้ใช้เสียงส่วนน้อยในการกู้ยืม ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงต้องหาเงินมาใช้หนี้ให้ จึงเป็นการสร้างความแตกแยก ก่อให้เกิดวิกฤตศรัทธาด้วยคำพูดที่ว่า “วัดเป็นหนี้ อาตมาไม่ได้เป็นหนี้” 2.ขาดการสงเคราะห์มีอคติไม่ไปกิจนิมนต์โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ก่อให้ศรัทธาชาวบ้านตกและทำให้งานไม่มีพระสงฆ์ทำให้ผู้จัดงานเสียหน้าและสะเทือนใจ จนเป็นปมเหตุวิกฤตศรัทธาพระกับชาวบ้าน 3.ดำเนินการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆภายในวัดโดยไม่เคยปรึกษาและชี้แจงให้คณะกรรมการและชาวบ้านได้รับทราบ 4.ปลดคณะกรรมการวัดที่ไม่เห็นด้วยกับตนออก และห้ามไม่ให้เข้าวัด 5.ต้องการที่จะบริหารเงินวัดโดยลำพังผู้เดียว 6.เบิกเงินวัดโดยไม่ไม่มีการปรึกษาคณะกรรมการ
            7.เปิดเครื่องเสียงเปิดเพลงเสียงดัง(ไม่เคยเปิดธรรมะ) ก่อให้เกิดความรำคาญแก่ชาวบ้านและเนื้อหาเสียดสีชาวบ้านด้วย 8.ข่มขู่ชาวบ้านตั้งตนเป็นปรปักษ์กับชาวบ้านโดยแจ้งความจับชาวบ้านที่มีความเห็นต่างจากตน 9.ปิดรูปภายนอกไม่รับโทรศัพท์คนอื่น ตัดขาดจากวัดอื่นส่งผลให้การบริหารงานติดขัด ขาดการประชุมคณะสงฆ์เป็นต้น ส่งผลเสียให้การแยกตำบลเขตการปกครองสงฆ์ต้องตกไปที่เขตอื่น (ถ้าเจ้าอาวาสเข้าประชุมก็ยังมีโอกาสคัดค้านบ้าง)จึงสร้างความสะเทือนใจและส่งถึงความบกพร่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าอาวาส 10.เจ้าอาวาสเป็นบุคคลสาธารณะแต่ท่านกลับมีโลกส่วนตัวสูงอยู่แต่ในกุฏิมิดชิด เปิดแอร์ 24 ชั่วโมงไม่ออกมาทำกิจวัตรเยี่ยงพระสงฆ์ที่ควรเป็น 11.สรุปท่านเป็นพระที่มีอคติไม่เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาของชาวบ้านไม่มีจิตที่เป็นกลาง ช่างตุ่นอยู่บนฑิฐิติมานะ ทรยศต่อศรัทธาของชาวบ้าน คอยอ้างแต่อำนาจและกฎหมาย สร้างความแตกแยกไม่สร้างความสงบสุขร่มเย็นไม่เป็นที่พึ่ง แต่ตรงข้ามคือสร้างปัญหาความแตกแยกมายาวนานกว่า 10 ปี ในการนี้จึงขอความเมตตาจากท่านเจ้าคณะตำบลได้ตรวจสอบให้ได้ความกระจ่างและเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนา และพุทธศาสนิกชนสืบไป
             ป้าประทีป สุขเกษม ชาวบ้านกล่าวว่า ตนเองรับไม่ได้กับการที่ทางเจ้าอาวาสกล่าวหาว่าตนเอาเงินวัดซึ่งไม่เป็นมูลความจริง จนเกิดความเสียหายชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เอาเจ้าอาวาสต้องการให้ทางเจ้าอาวาสออกจากวัด ป้าโสภา บุญจ้อย ได้สอบถามเจ้าอาวาสเรื่องการเบิกเงินวัด ซึ่งทางตนเองมีพยานบุคคลว่าได้ไปเบิกเงินให้กับทางวัด 3 ครั้ง ครั้งแรกจำนวนเงิน 140357.72สตางค์ ครั้งที่ 2 90,000 บาท ครั้งที่ 3 จำนวน20,000 บาท ยอดคงเหลือจำนวน 44,743 บาท ซึ่งขัดแย้งกับเจ้าอาวาสกล่าวอ้างว่า เจ้าอาวาสเบิกเงินจากธนาคารครั้งแรก เมื่อวันที่ 9 ธค.65 จำนวน 14,349.64 สตางค์ ครั้งที่ 2 วันที่ 13 กพ.66 จำนวน 19,745.08สตางค์ ครั้งที่ 3 วันที่ 18 เมย.66 24,355.00 สตางค์ บัญชีดังกล่าวไม่มีเห็นความจริงหรือไม่แค่นำตัวเลขมาบอกญาติโยมให้รู้ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวชาวบ้านไม่เห็นด้วยและรับไม่ได้ วันนี้ชาวบ้านจึงให้ลงมติขับไล่เจ้าอาวาสให้ออกจากวัดซึ่งมีชาวบ้าน 50 คน ยกมือเห็นด้วยที่ไม่ให้เจ้าอาวาสอยู่ที่วัดนี้

             นายบรรดิษฐ์ แก้วเคน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 กล่าวว่าวันนี้ชาวบ้านรวมตัวกันมาประชุมและขอมติต่อหน้าเจ้าคณะตำบล ซึ่งทางเจ้าอาวาสมีปัญหากับญาติโยมมานานกว่า 10 ปี ในวันนี้ชาวบ้านได้พากันลงมติยกมือไม่ให้เจ้าอาวาสอยู่ที่วัดนี้ต่อหน้าเจ้าคณะตำบลให้รับทราบ

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!