เชียงใหม่-แถลงความคืบหน้ากรณีเด็กนักเรียนถูกครูทำร้ายที่เชียงดาว

ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่

          ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นั่งหัวโต๊ะแถลงความคืบหน้ากรณีเด็กนักเรียนถูกครูทำร้ายที่เชียงดาว ยืนยันจะดูแลเด็กผู้ถูกกระทำและครูที่ออกมาให้ข้อมูลอย่างดีที่สุด พร้อมฝากถึงครูทุกคนหมั่นดูแลเอาใจใส่เด็ก และกล้าที่จะออกมาให้ข้อมูลในสิ่งที่ไม่สมควร
           วันนี้ (23 พ.ค. 66) ที่ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสรรค์ ขันคำนันต๊ะ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเชียงดาว นางสาวกิรณา โนนสินชัย รองศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ นางจิราพร เชาวน์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงถึงความคืบหน้ากรณีมีการเผยแพร่ภาพข่าวเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาวถูกครูทำร่างกาย
           โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ภาพที่ปรากฏเป็นสิ่งที่น่าสะเทือนใจ ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแล้ว พร้อมสั่งการให้นักจิตวิทยา และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ไปดูแลสภาพจิตใจของเด็กผู้ถูกกระทำอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยทราบว่าครูผู้ก่อเหตุต้องการสั่งสอนนักเรียนแต่มีอารามณ์โมโหและทำไปด้วยความบันดาลโทสะจึงเกิดเป็นภาพตามที่ปรากฏขึ้น ในส่วนของเด็กผู้ถูกกระทำก็ได้พาไปตรวจร่างกายและไม่พบว่ามีบาดแผลใด ๆ ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งความดำเนินคดีกับครูผู้ก่อเหตุ 2 ข้อหา คือข้อหาทำร้ายร่างกาย และข้อหาการกระทำผิดตาม พรบ.เด็ก
            กรณีการย้ายคุณครูผู้หญิงที่ออกมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ เป็นไปเพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ โดยยืนยันว่าจะดูแลอย่างเต็มที่และดีที่สุด โดยขณะนี้อยู่ในช่วงของการตรวจสอบครูผู้กระทำผิด ส่วนการตรวจสอบเรื่องการใช้เงิน ขอเวลาให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน และยืนยันว่าเป็นไปอย่างโปร่งใสแน่นอน ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ฝากถึงคุณครูทุกคนขอให้หมั่นดูแลเอาใจใส่เด็ก อย่ากระทำรุนแรงกับเด็กเป็นอันขาด และขอให้มีความกล้าที่จะออกมาแจ้งหรือให้ข้อมูลในสิ่งที่ไม่สมควร เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ปกครองในการส่งเด็กไปเรียนตามสถานศึกษาต่าง ๆ นอกจากนี้ จะได้กำชับให้ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่ง ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมสถานศึกษาให้บ่อยครั้ง เพื่อรับทราบสิ่งบ่งชี้ที่อาจผิดปกติ ซึ่งจะทำให้เกิดการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที