ประจวบคีรีขันธ์-ถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึกคึกคัก ส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้ชุมชน
ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร
เมื่อวันที่ 23 พ.ค.66 ที่บริเวณชุมชนหัวบ้าน ถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มอบหมายให้ นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก โดยมี นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้ประกอบการภาครัฐและเอกชน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมชมเป็นจำนวนมาก โดยภายในงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมของเยาวชน การประกวดแต่งกายชุดโกโบริและอังศุมาลิน การแข่งขันทำซูชิ การแสดงโฟล์คซอง การประกวดการแต่งกายสไตล์ญี่ปุ่น การออกบูธจำหน่ายอาหารญี่ปุ่น บูธจำหน่ายสินค้าส่งเสริมกีฬาทางน้ำ บูธส่งเสริมศิลปะวาดภาพของเด็ก บูธจำหน่ายอาหารท้องถิ่น มีการนำสินค้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น งานหัตถกรรม อาหารพื้นบ้านมาจำหน่ายเพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้จับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เทศบาลเมืองประจวบฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบการที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร ได้ร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์ถนนสู้ศึก และเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก รวมทั้งเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
สำหรับถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึกเป็นถนนที่ได้รับการประกาศและจัดตั้งโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นถนนสายวัฒนธรรม 1 ใน 11 แห่ง เป็นชุดแรกเมื่อปี 2560 ซึ่งก่อนจะเป็นถนนสายวัฒนธรรมนี้มีชุมชนเก่าแก่ มีประวัติอันยาวนานมาตั้งแต่สมัยอยุธยาเรียกว่าชุมชน “เกาะหลัก” ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆของชาวประมงและเป็นที่พักเรือที่จะเดินทางไปทางใต้ และต่อมามีประวัติศาสตร์ที่สำคัญสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2484 เมื่อทหารญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกเพื่อเดินทัพต่อไปยังประเทศพม่าหรือเมียนมาในปัจจุบัน ณ อ่าวมะนาว กองบินน้อยที่ 5 หรือกองบิน 5 ในปัจจุบัน
“ถนนสู้ศึก” ตั้งชื่อเพื่อให้เป็นเกียรติประวัติและเป็นที่ประจักษ์มาจนถึงปัจจุบัน มีความยาวตั้งแต่เขาช่องกระจกไปถึงชุมชนหัวบ้านและจรดทางเข้ากองบิน 5 เป็นที่ตั้งของของสถานที่สำคัญๆหลายแห่ง เช่น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง (ศาลหลักเมืองเก่า) บ้านเรือนของวีรชน และบ้านเก่าเล่าเรื่องที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานและทรงคุณค่าควรแก่การเรียนรู้และท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีที่พักโรงแรม ร้านอาหาร และมีกิจกรรมต่างๆที่เป็นอัตลักษณ์ของถนนสายวัฒน ธรรม เช่น กิจกรรมตักบาตรเช้าวันอาทิตย์ การบรรเลงดนตรีไทยเดิมของคนในชุมชน กิจกรรมลีลาศของชมรมลีลาศประจวบ รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดด้วย