ชลบุรี-วอน ตร.จับโจรสาว ย่ามใจตระเวนขโมยของตามร้านค้านับสิบร้าน

ภาพ-ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี

             กล้องวงจรปิด จับพฤติกรรมโจรสาวแสบ ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ร้านค้าในพื้นที่ คืนเดียวเกือบ 10 ร้านค้า ได้เงินสดและทรัพย์สินเกือบ 30,000 บาท แม่ค้าสุดทนวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวมาดำเนินคดี แม้จะสูญเสียทรัพย์สินไปไม่มาก แต่สุขภาพจิตเสีย เป็นภัยสังคม
              เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. 66 ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุ สภ.ศรีราชา ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ร้านค้าเกือบ 10 ร้าน ที่อยู่บริเวณถนนศรีราชา-หนองยายบู่ สี่แยกซากค้อ ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ตู้ยามนาพร้าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีราชา เข้าร่วมตรวจสอบ

              โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ เป็นผู้หญิงสวมเสื้อสีเขียวอ่อน กางเกงยีนขายาวรัดรูป 4 ส่วน รองเท้าแตะสีขาว รูปร่างผอม ผิวคล้ำ ผมยาวประมาณเลยไหล่รัดผม ถือกระเป๋าสะพายสีดำ และถุงดำใส่ขยะขนาดใหญ่มาด้วย โดยจะออกก่อเหตุประมาณตีสองเป็นต้นไป พฤติกรรมจะเดินเข้าไปแอบตามร้านต่าง ๆ ก่อนฉวยโอกาสหยิบฉวยของมีค่า หรือสิ่งของที่มีขนาดไม่ใหญ่มากของร้านต่าง ๆ ไป ก่อนนำไปใส่ไว้ในถุงขยะ ถ้าเป็นเงินสดก็จะใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายสีดำที่เตรียมมา บางร้านได้งัดเข้าไปด้านลักทรัพย์สินที่มีอยู่ภายในร้านทั้งหมด ก่อนตระเวนเดินไปตามร้านต่าง ๆ เพื่อก่อเหตุ

               โดยร้านแรกเป็นภาพคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักของมีค่าในร้านขายน้ำปั่น ร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง หมูกรอบ ข้าวขาหมู ที่อยู่ติดกันได้ทรัพย์สินเป็นเงินทอน เครื่องรางของขลัง รวมเป็นเงินประมาณ 500 บาท หลังจากนั้นคนร้ายได้เข้าไปลักของที่ร้านขายข้าวหน้าปลาซาบะ ของ นางอุทัยวรรณ รัตนโสภา อายุ 41 ปี เป็นอุปกรณ์ที่ชาร์จแบต ลำโพงบลูทูธ หูฟังบลูทูธ ปลาซาบะสด และเงินทอนอีกจำนวนหนึ่ง รวมเป็นเงินประมาณ 2,000-3,000 บาท ร้านที่สามเป็นร้านเจ๊ปูข้าวหน้าเป็ด ขายก๋วยเตี๋ยวเป็ด ถูกคนร้ายลักอุปกรณ์ทำก๋วยเตี๋ยวไป ส่วนของมีค่าอื่น ๆ เจ้าของร้านได้เก็บเข้าร้านไปแล้ว รวมค่าเสียหายประมาณ 1,000 บาท ร้านที่ 4 เป็นห้องพักใกล้ที่เกิดเหตุชั้นสอง พบนายชัยดำรง นามวงศ์ อายุ 33 ปี แจ้งว่ามีโทรศัพท์มือถือราคาประมาณ 8,000 บาท และเงินสดอีกประมาณ 500 บาทหายไป ร้านที่ 5 เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวธัญรส พบคนร้ายปีนเข้าร้านไปงัดเอาเงินในลิ้นชัก ที่เจ้าของร้านคือ นายสุนทร เอี่ยมสะอาด อายุ 55 ปี เก็บเงินสดไว้เตรียมจ่ายให้พ่อค้าแม่ค้าที่ฝากขายสินค้าในร้าน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 9,500 บาท ร้านที่ 6 เป็นร้านขายขนมจีน พบว่ามีเงินทอน เครื่องรางของขลัง น้ำเปล่าแพ็ค และลำไยหายไป ร้านที่ 7 เป็นร้านขายของชำของ นางสาวรุจิพัชร์ กุลทิพย์ธานนท์ อายุ 50 ปี เป็นเจ้าของร้านแจ้งว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีเงินสดประมาณ 4,000 บาท และยังมีเศษเงินแบงค์ร้อย แบงค์ยี่สิบที่จะไว้ใช้ทอนลูกค้าอีกจำนวนหนึ่ง

              จากการสอบถาม นายสุนทร เอี่ยมสะอาด เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวธัญรส เปิดเผยว่า ตนเองเปิดร้านตอน 8 โมงเช้า ปิดตอน 5 โมงเย็น ตอนเช้าวันนี้ มีลูกน้องเข้ามาเปิดร้านตามปกติ ก็ไปเห็นลิ้นชักเปิดอยู่จึงโทรตามและมาตรวจสอบ พบว่าเงินสดที่เตรียมไว้จ่ายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่นำสินค้ามาวางขายในร้านหายไป จำนวน 9,500 บาท คาดเป็นคนร้ายน่าจะปีนประตูรั้วเข้ามาก่อเหตุ
             ด้านนางสาวรุจิพัชร์ กุลทิพย์ธานนท์ เปิดเผยว่า ตอนประมาณตี 3.15 น. วงจรปิดเห็นคนร้ายมานั่งอยู่บริเวณหัวมุมห้องของร้านขายของชำ สักครู่สุนัขที่ร้านเห่าเสียงดัง คนร้ายจึงนั่งรอสักครู่จนสุนัขหยุดเห่า หลังจากนั้นมุดประตูรั้วเข้ามารื้อช่องเก็บของที่ใส่เก็บเงินไว้ จากนั้นคนเดินดูรอบๆ ซึ่งทางร้านจะออกไปเตรียมซื้อของที่ตลาด คนร้ายได้ยินเสียง จึงทิ้งลิ้นชักไว้ที่พื้นก่อนจะหลบหนีออกไป โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นเงินทอนประมาณ 4,000 บาทและยังมีเศษเงินแบงค์ 20 แบงค์ร้อยอีกจำนวนหนึ่ง เหตุการณ์นี้ ตนเองคิดว่าเป็นอันตรายไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ซึ่งตอนนี้แค่ทรัพย์สินหายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์คนร้ายเข้ามาทำร้ายมันจะเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวตรงนี้มากกว่า อย่าไปคิดว่าแค่คนร้ายเข้ามาลักขโมยของแล้วทรัพย์สินหายไป แล้วคิดว่าไม่เป็นไรคนร้ายจึงย่ามใจ ก่อเหตุทุกวันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายอยู่ในขณะนี้ ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ควรที่จะออกมาแจ้งความเพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไขป้องกันต่อไป

             หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีราชา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และค้นหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ เพื่อสืบสวนติดตามคนร้ายรายนี้ มาดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป