นครสวรรค์-นายก อบจ.ร่วมเสวนาแผนการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ภาพ-ข่าว:ชาติชาย เกียรติพิริยะ

         เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 มิถุนายน 2566 พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ ได้รับเชิญไปร่วมในการเสวนา “เรื่องกลไกการขับเคลื่อนนโยบายและแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” ในฐานะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ ความสามารถ มากไปด้วยประสบการณ์ ได้ร่วมถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์ให้กับผู้เข้าร่วมเสวนา ในครั้งนี้ โดยมีนายณัฏฐวุฒิ จีนมหันต์ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการพิเศษ เทศบาลนครสวรรค์ นางแสงอรุณ บุญศรี สถิติจังหวัดนครสวรรค์ และรองศาสตราจารย์ ดร.รุจโรจน์ แก้วอุไร มหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วมเสวนา ณ ห้องประชุมแซฟไฟร์ 6 โรงแรม โบนีโด้ ชิโนส์ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
           ด้วย สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นที่ปรึกษา เพื่อคำเนินโครงการจัดทำนโยบายและแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) ระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายน 2566 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ คือ 1.ทบทวน คิดตามการดำเนินงาน และประเมินผล การดำเนินการตามนโยบายและแผนปฏิบัติการ ด้านการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 – 2565) และนโยบายและแผน เฉพาะด้าน การพัฒนากำลังคนให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2565) 2.เพื่อจัดทำมาตรการและแนวทางในการสนับสนุน และส่งเสริมกลไก การดำเนินงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถให้บริการแก่ประชาช นอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และสร้างระบบนิเวศสำหรับธุรกิจดิจิทัล ตลอดจนส่งเสริมการสร้างสังคมดิจิทัล ที่มีคุณภาพและลดความเหลื่อมล้ำทางโอกาสของประชาชน ที่เกิดจากการเข้าไม่ถึงโครงสร้างพื้นฐาน และขาดความรู้ความเข้าใจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมทั้งกำหนดแนวทางและมาตรการพัฒนากำลังคนดิจิทัล เพื่อรองรับการทำงานในระบเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งกลุ่มคนทำงานและกลุ่มคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล
             ซึ่งในการบรรยาย พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ ได้กล่าวว่า ” สำหรับทางอบจ.นครสวรรค์ เล็งเห็นถึงความแตกต่างเรื่องศักยภาพของประชาชน จึงได้จัดทำโครงการ Big data เพื่อจัดทำระบบจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาใช้ในงานด้านต่าง ๆ ได้แก่ ใช้ในหน่วยงานด้านสาธารณสุข ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านความมั่นคง ด้านการเงิน ด้านการบริการประชาชน ด้านเกษตรกรรม ด้านสาธารณูปโภค หรือ ด้านคมนาคม อาทิ – การใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาในการพยากรณ์อากาศ- การใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจราจร- การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อลดปัญหาและป้องกันการเกิดอาชญากรรม- การวิเคราะห์ข้อมูลด้านสาธารณสุข เช่น แนวโน้มของผู้ป่วย การรักษาพยาบาล หรือการเกิดโรคระบาด- การวิเคราะห์ข้อมูลด้านน้ำ แหล่งน้ำ ปริมาณฝน และการใช้น้ำ ฯลฯ
              โดยได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาประยุกต์ใช้ในองค์การ มาพัฒนาระบบการบริหารจัดการและระบบการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ และในอนาคตจะพัฒนาสู่รูปแบบรัฐบาลดิจิทัล เพื่อให้มีการทำงานแบบอัจฉริยะ (Smart Operation) ให้บริการโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Citizen-centric Services) และขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง พร้อมทั้งได้รับงบประมาณจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาระบบคาดว่าจะสามารถใช้ได้ภายในปีงบประมาณ 2567 ที่จะถึงนี้”
              นายณัฏฐวุฒิ จีนมหันต์ ได้กล่าวถึง สิ่งที่ทางเทศบาลนครนครสวรรค์ ได้ดำเนินการไปแล้วและกำลังดำเนินการเพิ่มเติมได้แก่ เรื่อง Smart City การร่วมมือกับทางตำรวจเพื่อทำApplicationในเรื่องความปลอดภัยของประชน การพัฒนาพื้นที่ฟรีอินเตอร์เน็ททั่วเขตเทศบาล ถังขยะอัจฉริยะ ระบบ Smart Health ช่วยผู้ป่วยติดเตียง

                นางแสงอรุณ บุญศรี กล่าวถึง เรื่องระบบการบริการภาครัฐที่เปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัล การใช้ Application ในการจัดเก็บและให้บริการข้อมูลข้าราชการทุกคนต้องมีความรู้เรื่อง Digital Literacy ประชาชนต้องใช้ Internet of Things ได้ และต้องมีความรู้เรื่อง พรบ.คอมพิวเตอร์

                รศ.ดร.รุจโรจน์ แก้วอุไร กล่าวถึง ระบบการเรียนการสอนต้องเปลี่ยนไปให้ทันเทคโนโลยี ครูต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีสอน โดยเรียนรู้จากเด็กได้ เพราะเด็กเรัยนรู้แล้วและสามารถใช้ระบบดิจิทัลได้เป็นอย่างดี เราต้องเรียนรู้และพร้อมรับกับ AI ที่กำลังเข้ามา ทุกอย่างกำลังเปลี่ยน ถ้าเราไม่เปลี่ยนตามเราก็จะอยู่ไม่ได้