ศรีสะเกษ-โจรใจบาป ขโมยเงินตู้บริจาควัด คาดเป็นฝีมือ อดีตพระลูกวัดเก่า

ภาพ-ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข

                 เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปวัดที่หนองตะมะ ตำบลโพธิ์ อำเภอเมืองฯ จังหวัดศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งจาก พระกฤษณ์ฉพัฒน์ สมาจาโร พระลูกวัดหนองตะมะ ว่า ได้มีคนร้ายเข้ามาลักลอบขโมยเงินในตู้บริจาค ภายในศาลาการเปรียญของวัด พร้อมทั้งเปิดภาพกล้องวงจร ปิด และพาไปดูสถานที่เกิดเหตุ โดยภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพชายคนหนึ่ง ที่แอบย่องเข้าไปยกตู้บริจาคของวัดออกไปจากศาลาการเปรียญ
               พระกฤษณ์ฉพัฒน์ สมาจาโร เปิดเผยถึงเหตุการณ์นี้ ว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันนี้ ( 3 กรกฎาคม 2566 ) ได้มีคนร้าย เข้ามาขโมยเงินภายในตู้บริจาค โดยพฤติกรรมในการก่อเหตุคือ ได้แอบเข้ามาภายในวัดและงัดประตูของศาลาการเปรียญ ก่อนที่จะยกตู้บริจาค ออกจากศาลาการเปรียญไป โดยคน ร้ายใช้วิธีค่อยๆ แงะเอาเงินออกตามซอกของช่องตู้บริจาค และเอาเงินไป ก่อนทิ้งตู้บริจาคไว้ ให้เห็นต่างหน้า บริเวณหน้าศาลาการเปรียญในจุดที่ไม่มีกล้องวง จรปิดอยู่ ซึ่งกว่าจะรู้ว่ามีคนร้ายมาแอบขโมยเงินในตู้บริจาคก็เวลาประมาณ 04.00 น. เพราะมีพระภายในวัด ที่กำลังจะออกไปบิณฑบาตร เห็นตู้บริจาคทิ้งอยู่ข้างนอกศาลาการเปรียญ
              พระกฤษณ์ฉพัฒน์ สมาจาโร กล่าวต่อไปว่า หลังจากทราบว่า มีการแอบขโมยเงินในตู้บริจาค ตนจึงได้เปิดกล้องวงจรปิดดูภาพเพื่อตามหาคนร้าย ซึ่งลักษณะรูปพรรณคนร้าย คล้ายคลึงกับที่คนเคยรู้จัก ซึ่งตนสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นอดีตพระลูกวัด ที่เคยบวชที่วัดแห่งนี้ เมื่อประมาณ ปี 2562 ซึ่งปัจจุบันได้สึกไปแล้ว จึงได้แจ้งกรรมการและพระหลายรูปภายในวัด ให้ช่วยกันดูภาพในกล้องวงจรปิดว่าใช่หรือไม่ ซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่า เป็น นายเอ (นามสมมุติ) อย่างแน่นอน จึงได้เรียกนายเอ (นามสมมุติ) ผู้ต้องสงสัย เพื่อเค้นถามข้อเท็จจริง ซึ่งเจ้าตัวก็ยังไม่รับสารภาพแต่อย่างใด และปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำการดังกล่าว ตนจึงนำหลักฐานต่างๆ ที่มี ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ ไว้ ซึ่งหลังจากกลับมาจากแจ้งความ ตนได้ทราบข่าวว่า นาย เอ ผู้ต้องสงสัย ได้ออกจากพื้นที่ โดยเดินทางไปต่างจังหวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น.
              พระกฤษณ์ฉพัฒน์ สมาจาโร กล่าวอีกว่า ตนอยากฝากถึงผู้ต้องสงสัย หรือคนร้ายที่มาขโมยเงินวัด ซึ่งเป็นบาปอย่างหนา อีกทั้งเงินนี้ เป็นเงินที่ญาติ โยม บริจาค เพื่อให้ทางวัด โดยทางวัดก็นำเงินจำนวนนี้ มาใช้ในการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟภายในวัด ซึ่งตนอยากให้คนร้ายคิดละอายบาปในเรื่องนี้