ประจวบคีรีขันธ์-ย่องขอเสาไฟคืน..! เจ้าหน้าที่เทศบาลฯอดได้เงินพัน..ย่องขอคืนเงินคืนเสาไฟฟ้าจากร้านขายของเก่าแต่เช้าตรู่

ประจวบคีรีขันธ์-ย่องขอเสาไฟคืน..! เจ้าหน้าที่เทศบาลฯอดได้เงินพัน..ย่องขอคืนเงินคืนเสาไฟฟ้าจากร้านขายของเก่าแต่เช้าตรู่

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

              วันที่ 8 กรกฎาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เสาไฟรูปสับปะรดสำหรับส่องสว่างตลอดแนวริมชายหาดอ่าวประจวบฯ มูลค่า 80000-100,000 บาท เกิดชำรุดเสียหายจากสาเหตุถูกความเค็มของน้ำทะเลกัดเซาะเป็นเวลานานจนเป็นสนิมผุพัง และบางส่วนหักโค่นลงมา และไม่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมแก้ไขให้สามารถกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อมาพบว่ามีการถูกนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าบริเวณถนนสุขสมบูรณ์ เขตเทศบาลเมืองประจวบฯ จนมีชาวบ้านพบเห็น และแจ้งให้กับสื่อมวลชนจังหวัดประจวบรับทราบ เนื่องจากมีความข้องใจว่าเสาไฟดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของหลวงแล้วนำมาขายให้ร้านรับซื้อของเก่าได้อย่างไร โดยที่ไม่ผ่านการเปิดประมูลจำหน่ายตามระเบียบทางราชการ เพื่อนำเงินที่ได้จากการประมูลส่งกลับคืนสู่หลวงตามขั้นตอน
               คืบหน้าล่าสุดเช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ร้านรับซื้อของเก่าดังกล่าว และสอบถามกับเจ้าของร้านถึงความเป็นมา โดยเจ้าของร้านไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ขอให้กลับไปสัมภาษณ์หน่วยงานที่เอาเสาไฟฟ้ามาขายก่อน หลังจากนั้นค่อยกลับมาสัมภาษณ์ตนภายหลัง แต่สามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า เสาไฟรูปสับปะรดดังกล่าวมีรถกระเช้าสีส้มของทางเทศบาลบรรทุกนำมาขายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยที่ตนเองเข้าใจว่าทางหน่วยงานต้นสังกัดรับรู้รับทราบ และยินยอมให้นำเอามาขายให้กับตน แต่หลังจากที่เป็นกระแสข่าวขึ้น ในเช้าวันนี้(8ก.ค.66)มีเจ้าหน้าที่พร้อมรถกระเช้าสีส้มคันเดิมได้กลับมาขอเสาไฟต้นดังกล่าวคืนกลับไป พร้อมคืนเงินจำนวน 1,000 บาท ให้กับตนโดยอ้างว่าลูกพี่ให้มาขอเอากลับคืนไปก่อน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร และตนเองรับซื้อตามปรกติโดยไม่ทราบการได้มาสินค้าของลูกค้า ซึ่งทางร้านมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อความโปร่งใสว่าใครและรถคันไหนนำมาขายให้กับร้านตน
              จากการสังเกตุหลังผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเสาไฟฟ้าต้นที่ถูกนำมาขายเป็นคนละต้นกันกับที่ถูกสนิมกัดกร่อนจนหักโค่นริมชายหาด เนื่องจากมีสภาพที่สมบูรณ์กว่า จึงตั้งข้อสังเกตุว่ายังมีเสาไฟต้นอื่นอีกหรือไม่ที่ถูกนำมาขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า และเสาไฟที่ถูกถอดออกจากเขื่อนกันคลื่นริมอ่าวประจวบฯยังอยู่ครบและเก็บไว้ตามจำนวนหรือไม่
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอนัดสัมภาษณ์ นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ เพื่อสอบถามรายละเอียดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ ระบุว่า ตนเองยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เนื่องจากยังไม่ทราบรายละเอียดขอหาข้อมูลก่อน พร้อมระบุว่า
            ในเบื้องต้นเสาไฟรูปสับปะรดดังกล่าวไม่ได้อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของเทศบาล เนื่องจากยังไม่ได้รับมอบจากหน่วยงานที่จัดสร้าง แต่เมื่อเกิดการชำรุดเสียหาย หรือหักโค่น และเสี่ยงเป็นอันตรายกับประชาชน และนักท่องเที่ยว ทางเทศบาลจึงมีหน้าที่ดูแลเก็บทำความสะอาดเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชน  เมื่อเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาลไปเก็บเสาไฟที่ชำรุดเสียหายแล้วก็จะนำไปส่งมอบให้กับสำนักงานท่องเที่ยว หรือสำนักงานโยธา ซึ่งต้องดูว่าเสาไฟต้นนั้นเป็นของใคร ส่วนเรื่องมีเจ้าหน้าที่นำเอาเสาไฟไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าตนยังไม่ทราบเรื่องจึงต้องขอหาข้อมูลก่อนเพื่อความถูกต้อง
             มีรายงานว่า เสาไฟส่องสว่างรูปสับปะรดที่ติดตั้งอยู่ตลอดแนวริมชายหาดอ่าวประจวบฯมีมากกว่า 200 ต้น ตั้งแต่หน้ารั้วกองบิน 5 จนถึงชุมชนเขาตาม่องล่าย ระยะทางยาวกว่า 8 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรับผิดชอบของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าต้นละประมาณ 80,000 ถึง 100000บาท แล้วแต่ขนาดความสูง ซึ่งในปัจจุบันส่วนใหญ่ชำรุดเสียหายและไม่สามารถใช้งานได้เกือบทั้งหมด บางส่วนมีไฟรั่วลัดวงจรจนเกิดเหตุไฟดูดประชาชน และนักท่องเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้บางจุดมีการชำรุดแบบถาวรเนื่องจากมีการลักตัดสายไฟฟ้าไปขายอีกด้วย

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!