อุทัยธานี-รอง ผบช.ภ.6 ตรวจประเมินโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรของ สภ.เมืองฯ

อุทัยธานี-รอง ผบช.ภ.6 ตรวจประเมินโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรของ สภ.เมืองฯ

ภาพ-ข่าว:วราภรณ์ จันทรังษ์

               รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และคณะกรรมการ ลงพื้นที่ตรวจประเมินโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรของ สภ.เมือง จังหวัดอุทัยธานี ตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยเขตพื้นที่ของ สภ.เมืองอุทัยธานี สามารถนำผู้เสพนำเข้าโครงการฯ ทุกรายต่างเปิดใจยอมรับ หลุดพ้นจากวงจรยาเสพติด สร้างชีวิตใหม่ที่ดีให้กับตนเองและครอบครัวได้อีกครั้ง
               ที่จังหวัดอุทัยธานี ที่ ศูนย์ปฏิบัติการชุมชนยั่งยืน วัดบุญลือ หมู่ที่ 1 ตำบลเนินแจง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี พล.ต.ต.สุรชาติ จึงดำรงกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมคณะกรรมการ เดินทางมาตรวจประเมินโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 ของตำรวจภูธรภาค 6 โดยมี พล.ต.ต.สุเมฆ บวรเศวตฉัตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พ.ต.อ.สาทิตย์ ศรีหมื่นไวย ผู้กำกับการตำรวจ.สภ.เมืองอุทัยธานี ข้าราชการตำรวจ และภาคีเครือข่าย ร่วมให้การต้อนรับ และรับการประเมินโครงการฯ พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์โอทอปส่งเสริมอาชีพ ในโครงการคืนสู่ชุมชน พร้อมกับเดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของที่บ้านผู้เข้ารับการบำบัดในโครงการฯ
              โดยโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 ของตำรวจภูธรภาค 6 นั้น เป็นโครงการที่เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบเชิงรุกและยั่งยืน โดยเน้นการปักหลักและเข้าถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนแบบยกต้นตอ คือการสอดส่อง ติดตาม ตรวจพบ สร้างความไว้ใจ จนนำไปสู่การยอมรับและให้ความร่วมมือของคนในชุมชนอย่างจริงจัง ก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยน ที่ยั่งยืน สร้างคุณภาพชีวิตของครอบครัว สู่ชุมชนที่มีคุณภาพ จนทำให้หมู่บ้านบุญลือนั้นกลายเป็นหมู่บ้านสีขาว ที่ปลอดอาชญากรรม และสารเสพติดไปโดยสิ้นเชิง
              จากที่ก่อนหน้านี้พบว่า ในหมู่บ้านบุญลือนั้นมีผู้ค้า และผู้ติดยาเสพติด ด้วยกัน จำนวน 28 ราย รวมไปถึงมีการลักเล็กขโมยน้อยในหมู่บ้านอยู่เป็นประจำ โดยหลังจากที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในตำบล ไม่ว่าจะเป็น หมออนามัย องค์การบิหารส่วนตำบลเนินแจง กำนัน ผู้ใหญ่ บ้าน และวัดในพื้นที่ เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงศักยภาพ ในการมุ่งเน้นแก้ปัญหายาเสพติดที่ต้นตอแบบเข้าถึงและเข้าใจ ทำให้ตลอดระยะเวลา 3 เดือนเต็มของการจัดโครงการดังกล่าวนี้ บรรดา ผู้ติดสารเสพติด ทุกรายต่างเปิดใจยอมรับ หลุดพ้นจากวงจรยาเสพติด สร้างชีวิตใหม่ที่ดีให้กับตนเองและครอบครัวได้อีกครั้ง ซึ่งผู้บำบัดทุกคนที่เข้ารับการบำบัดดังกล่าวยังได้มีการเข้ารับการฝึกอบรม ฝึกอาชีพ จนทุกคนไม่ไปยุ่งกับยาเสพติดต่อไป และยังบอกว่าโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรเป็นโครงการที่ดี หากไม่มีโครงการนี้คงจะกลับมาเป็นคนดีสู่สังคมไม่ได้ถือว่าเป็นการให้โอกาสกับผู้ที่คิดผิดที่ไปยุ่งกับยาเสพติด

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!