ร้อยเอ็ด-เหล่ากาชาดฯมอบบ้านตามโครงการสร้างบ้านและซ่อมแชมบ้าน เพื่อผู้ยากไร้ ถวายเป็นพระราชกุศล
ภาพ-ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน
วันที่ 17 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.30 น. นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีมอบบ้านให้แก่นางสำราญ แก้วสมบัติ ณ บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 11 ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ตามโครงการซ่อมแซม หรือสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ประจำปี 2566 โดยมี นางพรรณี ดลประสิทธิ์ ,นางอัจฉรา ราชบุรี, นางนภาพร ชัยเวชพิสิฐ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด นายวีระพงษ์ โคตรพงษ์ นายอำเภอเสลภูมิ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ ร่วมแสดงความยินดีและเป็นสักขีพยาน
เหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดทำโครงการสร้างบ้านและซ่อมแชมบ้านเพื่อผู้ยากไร้ ประจำปี 2566 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดี ต่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ และเป็นการส่งเสริมช่วยเหลือครอบครัวผู้ด้อยโอกาสที่มีฐานะยากจน แต่เป็นคนดีของสังคม ซึ่งในเคสของนางสำราญ แก้วสมบัติ ได้ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางด้านมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองแต่ไม่แข็งแรงและไม่มีความปลอดภัย โดยใช้งบประมาณจากเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 150,000 บาท ในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างบ้าน และได้รับความร่วมมือจากอำเภอ ส่วนราชการ ฝ่ายปกครองท้องที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจิตอาสา จัดหาแรงงานในการก่อสร้าง ตลอดจนกำกับดูแลการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ รวมถึงช่วยกันสนับสนุนมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีพ เพื่อให้ครอบครัวผู้ประสบปัญหาทางสังคม มีที่อยู่อาศัยที่มีความมั่นคงแข็งแรง และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สามารถลดปัญหาสังคมเศรษฐกิจระดับครัวเรือน เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน ต่อไป
นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตถือเป็นนโยบายสำคัญในการบริหารราชการ เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางสังคม โดยหน่วยงานภาครัฐมีหน้าที่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งกิจกรรมก่อสร้างซ่อมแซมและปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสหรือผู้ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัยในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และประชาชนในชุมชนด้วยกันเอง จะเป็นการสร้างความรัก ความสามัคคีในชุมชน ทั้งยังช่วยให้ผู้รับมีที่อยู่อาศัยอย่างมั่นคง แข็งแรงและดำรงชีวิตอย่างมีความสุข อันจะสร้างความอบอุ่นแก่ครอบครัว ต่อไป