บุรีรัมย์-เกษตรจังหวัดฯให้เกษตรกรรีบกักเก็บน้ำฝน..หวั่นภาวะเอลนีโญทำให้เกิดฝนทิ้งช่วง
ภาพ-ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ที่โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ หอประชุมอำเภอชำนิ อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ นายดำรง ปลั่งกลาง เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แสดงความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรนาข้าวและผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆที่ใช้ปริมาณน้ำฝนว่า ปีนี้บ้านเราอาจจะประสบกับภาวะฝนทิ้งช่วง โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าเราจะเข้าสู่สภาวะเอลนีโญ หมายความว่าสภาวะภัยแล้ง แต่จะเข้าสู่สภาวะเต็มที่ปลายปีนี้ถึงอีก 23 ปี เพราะฉะนั้นจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน อยากฝากถึงพี่น้องเกษตรกร อยากให้พี่น้องเกษตรกรหมั่นตรวจดูเรือกสวนไร่นาของตนเองเอง และหมั่นเก็บน้ำให้ได้มากที่สุดเพื่อได้ใช้ในการเกษตรอย่างเหมาะสมเมื่อเกิดภาวะภัยแล้งมาถึง และสิ่งสำคัญที่เกษตรกรจะขาดไม่ได้เลยก็คือ ถ้าหากทำการเกษตรแล้วไม่ว่าจะเป็นไม้ผล หรือทำนา
หลังจากเพาะปลูกได้ 15 วัน ก็ขอให้ไปแจ้งขึ้นทะเบียนกับเกษตรอำเภอ หรือดาวน์โหลดแอปปลิเคชั่นฟาร์มบุ๊ค(Farmbook) ก็จะสามารถขึ้นทะเบียนได้เลย สำหรับพี่น้องเกษตรที่ขึ้นทะเบียนถาหากมีปัญหาด้านสาธารณภัยหรือภัยพิบัติเกิดขึ้นก็จะได้รับการช่วยเหลือจากทาวราชการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด หรือแม้แต่หากรัฐบาลที่มีโครงการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ท่านก็จะได้รับความช่วยเหลือ แต่ถ้าหากว่าท่านไม่ขึ้นทะเบียน ท่านก็จะขาดสิทธิ์ตรงนี้ไป
นอกจากนี้ นายดำรง ปลั่งกลาง เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ยังได้ห่วงใยพี่น้องเกษตรกรนาข้าวว่า ช่วงนี้หากเกิดภัยแล้งโรคในนาข้าวก็คือเพลี้ยไฟ จะอย่างไรก็ตามสำนักงานเกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอจะได้แจ้งเตือนพี่น้องเกษตรกรอยู่แล้ว แต่ถ้าแจ้งเตือนไปแล้วพี่น้องเกษตรกรไม่ได้ไปตรวจดูในไร่นาตนเองก็จะไม่มีประโยชน์ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญก็คืออยากให้พี่น้องเกษตรกรไปหมั่นสำรวจไร่นาของตนเอง สำหรับไร่นาที่มีน้ำ ช่วงนี้ก็จะมีหนอนกะทู้ลงบ้างเป็นบางพื้นที่เกษตรกรไม่ต้องตื่นตกใจ และบางส่วนก็จะมีหอยเชอร์รี่บ้าง อย่างไรก็ตามถ้าหากเกษตรกรพบปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรคหรือแมลง มาทำลายพืชผลทางการเกษตรก็สามารถแจ้งได้ที่เกษตรอำเภอทุกอำเภอ ทางราชการก็จะหาแนวทางดำเนินการแก้ไขให้ต่อไป