ประจวบคีรีขันธ์-“อบต.ช้างแรก”ประชุมแก้น้ำในอ่างแห้งหลังชาวบ้านเดือดร้อนน้ำประปาไม่พอใช้
ภาพ-ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม
“ส่วนชาวบ้านข้องใจที่ดินของโรงเรียนกว่า 10 ไร่ ประปาครอบครองได้อย่างไร”
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวราบงานที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดประชุมการจัดการและบริหารน้ำอย่างมีส่วนร่วมของอ่างเก็บน้ำช้างแรก หลังเกิดวิกฤต น้ำในอ่างแห้งขอดจนเป็นเหตุให้ผู้ใช้น้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาบางสะพานประสบปัญหาเดือดร้อนโดยมี นายณธกร เต็มชยกุล ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง(ปลัดอาวุโส)อำเภอบางสะพานน้อย ประธานการประชุม นายธิรวัฒน์ สุดจันทร์ นายก อบต.ช้างแรก นายสุชาติ สุดเสนาะ ผู้จัดการประปาภูมิภาคสาขาบางสะพาน นายนันทปรีชา คำทองประธานสภาคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนชาวตำบลช้างแรก กว่า 50 คน ร่วมประชุม
นายนันทปรีชา คำทอง กล่าวว่า ในที่ประชุมได้ข้อเสนอในที่ประชุมให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบางสะพานหาแนวทางพัฒนาแหล่งน้ำร่วมกับองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นและให้มีมาตรการหลักเกณฑ์การแก้ปัญหาการใช้น้ำและมีแหล่งน้ำสำรองและการบริหารจัดการน้ำในภาวะวิกฤตเมื่อเกิดภัยแล้ง ให้ขยายเขตบริการน้ำประปาในส่วนของตำบลช้างแรก
นายวุฒิพงศ์ วงค์คลัง ชาวบ้านตำบลช้างแรก กล่าวว่า ตนเองยังข้องใจว่าที่ดินจำนวนกว่า 10 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของโรงเรียนอนุบาลบางสะพานน้อยหรือโรงเรียนบ้านหินปิด ถูกการประปาส่วนภูมิภาคนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ที่ผ่านมาชาวบ้านในตำบลช้างแรกยังคงสงสัยว่าวิธีการการนำที่ดินโรงเรียนไปใช้ประโยชน์ของการประปาส่วนภูมิภาคนั้นขั้นตอนขอใช้ที่ดิน
นายสุชาติ สุดเสนาะ กล่าวว่าข้อเสนอของชาวบ้านทุกข้อจะแจ้งให้ผู้มีอำนาจทราบในส่วนที่อยู่ในอำนาจของตนก็จะรีบดำเนินการและที่ชาวบ้านสงสัยว่าการประปาส่วนภูมิภาคนำที่ดินของโรงเรียนไปใช้ประโยชน์นั้นขั้นตอนการขอใช้ที่ดินเป็นไปในลักษณะไหนจะตรวจสอบและแจ้งให้ชาวบ้านทราบต่อไป
นายธิรวัฒน์ สุดจันทร์ กล่าวว่า ชาวตำบลช้างแรกที่ใช้น้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคเพียง 638 ครัวเรือน คิดเป็น 13 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ใช้น้ำทั้ง 2 อำเภอ ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้เกิดน้ำแห้งมา 2 ครั้ง ดังนั้นชาวบ้านส่วนมากที่มีผลกระทบทั้งภาคเกษตรด้วยต้องการแก้ปัญหาแบบยั่งยืนไม่ใช้การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเหมือนปัจจุบัน ล่าสุดองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ประจวบคีรีขันธ์ ส่งเจ้าหน้าที่สำรวจอ่างเก็บน้ำเพื่อขุดลอกท้องอ่างให้มีความลึกเพื่อกักเก็บน้ำ