ปราจีนบุรี-ผวา..!!ช้างป่าเขาอ่างฤาไนเดินผ่านบ้านกลางดึก

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

                 นักอนุรักษ์ระบุเปรี้ยง!!ปัญหาดังกล่าวรุนแรงขึ้นทุก ๆ ปี โดยที่พบ เป็นผลกระทบต่อทรัพย์สิน – ชีวิต ตลอดจนจิตใจผู้คนที่ได้รับผลกระทบ จากการที่ช้างป่ามาหากิน ทำลายพืชผลการเกษตร บ้านเรือน หรือบางครั้ง เสียชีวิตกับคน – เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หรือ ช้างป่าเอง ที่ถูกทำร้าย เกิดอุบัติเหตุขณะข้ามถนน แม้ทางรัฐบาลพยายามแก้ไข แต่จนปัจจุบันนี้ ยังไม่ทันท่วงที เพราะการรอฝ่ายบริหารประเทศ
               เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ 31 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่าพบมีการโพสต์ในไลน์กลุ่มเฝ้าระวังช้างป่าในการแจ้งเตือนชาวบ้านโดย นายวารินทร์ เตียงงา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 เทศบาลสระบัว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่สอบถาม

           นายวารินทร์ เปิดเผยว่า ช่วงกลางดึกนี้ ได้รับแจ้งจากลูกบ้าน พบช้างป่าตัวใหญ่มีงาอยู่ข้างบ้านหลังรับแจ้ง ผู้ใหญ่บ้านและตำรวจสายตรวจสภ.สระบัว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มาตรวจตรวจสอบพบช้างป่าตัวใหญ่มีงา 1 ตัวตามที่รับแจ้งจริง จากนั้นช้างป่าตัวดังกล่าวเดินเข้าป่าลัดเลาะข้างบ้านเรือนประชาชนหายไปในความมืด จึงแจ้งข้อมูลข่าวสารใน LINE กลุ่ม เพื่อแจ้งเตือินให้ชาวบ้านได้รับทราบและเฝ้าระวัง หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านจึงร่วมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.สระบัวมาตรวจสอบดังกล่าว พบว่าช้างป่าตัวดังกล่าวได้เดินเข้าป่าข้างบ้านเรือนประชาชนหายไปและ ตนเองได้แจ้งข้อมูลข่าวสารใน LINE กลุ่มให้ประชาชนในพื้นที่และละแวกใกล้เคียงได้รับทราบแล้ว และให้รีบแจ้งมากลับหากพบเห็นช้างป่าตัวดังกล่าวอยู่บริเวณใด ช้างป่าตัวดังกล่าวคาดว่าเป็นช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนที่ข้ามฝั่งมาจาก อ.ท่ากระดาน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับจังหวัดปราจีนบุรี ข้ามจังหวัดเข้ามาหากิน และช้างป่า 1-2 ตัวนี้ เคยใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าวออกหากินอันเป็นวงรอบประจำของพวกเขา

             ด้านป้าเพียงใจ พู่ทอง ชาวบ้านหมู่ที่ 5 กล่าวว่า ในทุกๆปีช้างป่า จะมาหากินที่บริเวณที่นาของตนเอง รู้สึกหวาดกลัวมาก และในช่วงดึก เมื่อคืนนี้ ช่วงเวลาดังกล่าวตนเองก็นอนหลับสบาย ๆ อยู่ที่หน้าบ้าน ไม่รู้ว่าช้างเดินผ่านบ้านมาห่างไม่กี่เมตร รู้สึกตกใจแล้วหวาดกลัวมากเพราะสัตว์ป่าอาจเกิดอันตรายได้เสมอ คิดว่าเป็นเส้นทางเดินหากินของช้างป่า เมื่อยามถึงฤดูกาลหรือวงรอบการหากินช้างป่าก็จะออกหากินตามเส้นทางเดินที่ที่เคยเดินมาหากิน

            ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับปัญหาช้างป่าที่ออกหากินนอกพื้นที่ป่าใน จ.ปราจีนบุรีที่รุนแรงและบ่อยครั้ง ประกอบด้วย เขตพื้นที่ อ.นาดี เป็นช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ,อ.กบินทร์บุรี ,อ.ศรีมหาโพธิ เป็นช้างป่าที่ข้ามฝั่งมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา และ พื้นที่เขต อ.เมืองปราจีนบุรี เป็นช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่มีน้อยครั้ง ปัญหาดังกล่าวรุนแรงขึ้นทุก ๆ ปี สาเหตุหลักคือ จำนวนประชากรช้างป่าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่พื้นที่อยู่ แหล่งอาหาร แหล่งน้ำจำกัด ช้างป่าจึงออกมาหากินนอกผืนป่า โดยมาทั้งโขลง – แยกตัวออกมา โดยผลกระทบ มีทั้งต่อทรัพย์สิน – ชีวิต ตลอดจนจิตใจผู้คนที่ได้รับผลกระทบ จากการที่ช้างป่ามาหากิน ทำลายพืชผลการเกษตร บ้านเรือน หรือบางครั้ง เสียชีวิตกับคน – เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หรือ ช้างป่าเอง ที่ถูกทำร้าย เกิดอุบัติเหตุขณะข้ามถนน แม้ทางรัฐบาลพยายามแก้ไข แต่จนปัจจุบันนี้ ยังไม่ทันท่วงที เพราะการรอฝ่ายบริหารประเทศ
            ที่ผ่านมาฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามดูแลร่วมแก้ไข อาทิ อุทยานแห่งชาติทับลาน จัดเครื่องบินอากาศยานไร้คนขับ บินสำรวจการออกมาของช้างป่าตามแนวเขต , บินสำรวจพื้นที่ปลูกพืชไร่ของเกษตรกร ที่จะเร่งแก้ไข ,การจัดชุดอาสาสมัครป้องกัน – เครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าของพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ที่ช้างป่าออกนอกเขต การหาแนวทางการให้ผลตอบแทนกับผู้เสียหายจากช้างป่า การพัฒนาหาแหล่งอาหาร ฯลฯ แต่ยังรอการขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรมแน่ชัดจากรัฐบาลใหม่ที่ล่าช้า