อุดรธานี-รวบ”ไพรณรงค์”หัวโจก”แก๊ง PCX “ลักจยย.บิ้กไบค์ข้ามโขง
ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวอาชญากรรมตำรวจภูธรภาค 4
แก๊ง PCX ลักจยย.ยอดฮิต บิ๊กไบค์ PCX ส่งขายลาว ยอดขายทะลุ 10 ล้าน สืบภาค 4 ตามจับหัวโจกยึดอาวุธสงครามได้อีก หลังรวบสมุนได้ก่อนหน้านี้ 3 คน สืบภาค 4 เผยยังมีอีกหลายแก๊ง ที่ลักจยย.ขายข้ามชาติ อยู่ระหว่างสืบสวนจับกุมอีก
วันที่ 2 ส.ค.66 ที่ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 อุดรธานี พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4,พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.สมภพ กองสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4,พ.ต.ท.เอกวิทย์ บาคาล รอง ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4, พ.ต.ท.พชร กฤษณกาฬ สว.ฯ, พ.ต.ท.สืบวงค์ สุดหนองบัว สวฯ, พ.ต.ต.หญิง ทัศธนาวดี หิมพรหม สว.ฯ, ร.ต.อ.ธนพงษ์ สิริสำราญ รอง สว. ฯ, ร.ต.อ.วรพรต อุติลา รอง สว.ฯ. ,ชุดสืบสวน สภ.ธาตุพนม และ ชุดสืบสวน ภ.จว.นครพนม ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายไพรณรงค์ สงวนนามสกุล อายุ 25 ปี ชาว ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงครา จ.นครพนม ต้องหาตามหมายจับของจังหวัดนครพนม ที่ จ.72/2566 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2566 ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “มี ซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตตรา 55 (มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง) (มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง)” และมีหมายจับเพิ่มเติมอีกจำนวน 2 หมายจับ ดังนี้ 1.ตามหมายจับของจังหวัดนครพนม ที่ จ.73/2566 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2566 และ 2.หมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ 86/2566 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์(รถจักรยานยนต์)ในเคหสถานหรือรับของโจร”
พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 เปิดเผยว่า “จากสืบสวนขยายผลเครือข่ายลักรถจักรยานยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน และขออนุมัติหมายค้นของศาลจังหวัดนครพนม ที่ ค.152/2566 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2566 เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 134 ม.6 ต.ธาตุพนมเหนือ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ นายไพรณรงค์ฯ อายุ 25 ปี ที่อยู่ ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม กล่าวอีกว่า ห้วง ก.ย. 2565 ถึง มี.ค.2566 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายร่วมกันลักทรัพย์ คือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น PCX (รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกขนาดใหญ่) ซึ่งเป็นที่นิยมของประชาชนโดยทั่วไปและมีมูลค่าราคาสูง (ราคาคันละ 90,000 -120,000 บาท) โดยกลุ่มคนร้ายจะตระเวนลักในพื้นที่หลายพื้นที่จังหวัดตำรวจภูธรภาค 4 (จากการตรวจสอบพบข้อมูลที่กลุ่มคนร้ายลักไปเป็นจำนวนกว่า 60 คัน) ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 4 เป็นจำนวนมาก (เกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2566ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย คือ 1.นายณัฐวุฒิ หรือณัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ราษฎร อ.หนองหาน จ.อุดรธานี, 2.นายณัฐวัฒน์ หรืออู๋ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ราษฎร อ.หนองหาน จ.อุดรธานี, 3.นายณัฐพล หรือเบส (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ราษฎร อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พร้อมตรวจยึดของกลางคือรถจักรยานยนต์ทั้งสองคันที่ถูกลักมาพร้อมป้ายทะเบียนรถที่ถูกถอดออก และอุปกรณ์เครื่องมือช่างจำนวนมาก จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสามให้การรับสารภาพว่า พวกตนร่วมกันตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ PCX จริง เนื่องจากมีราคาสูงและสามารถนำไปขายต่อได้ในราคาที่สูง (คันละ 30,000-50,000 บาท) เมื่อตระเวนลักรถจากที่ต่างๆได้แล้วจะลักลอบขนมาที่จุดหลบซ่อนใน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เพื่อถอดกุญแจสวิตช์แล้วจะนำไปจ้างช่างกุญแจประจำที่รู้จักทำการปลดล็อคและดัดแปลงกุญแจสวิตช์ให้ใช้งานได้ปกติ จากนั้นจะนำรถไปโพสต์ขายในเพจรถหลุดจำนำต่างๆ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสามรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุลักจักรยานยนต์ PCX จำนวนกว่า 20 คัน ในพื้นที่จังหวัด สกลนคร , มุกดาหาร, มหาสาร คาม, ขอนแก่น , อุดรธานี ได้ขยายผลจับกุม นายวีระพงษ์ หรือ วีฯ อายุ 35 ปี ผู้รับซื้อรถจักรยานยนต์ PCX ที่ได้จากการกระทำผิด ดำเนินคดีในความผิดฐาน “รับของโจร”
ด้าน พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.ฯ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายณัฐวุฒิ หรือ ณัฐ อายุ 25 ปี (หัวหน้าแก๊ง) พบประวัติเคยต้องคดีในคดียาเสพติดให้โทษ ปี 2561 ท้องที่ สภ.ท่าพระ , คดี พรบ.อาวุธปืนฯ ปี 2565 ท้องที่ สภ.ปากคาด , คดีลักทรัพย์ (รถจักรยานยนต์) ปี 2565 ท้องที่ สภ.คำตากล้า และยังหลบหนีหมายจับ ศาลจังหวัดสกลนคร ในความผิดฐานลักทรัพย์ (รถจักรยานยนต์) ปี 2566 อีกจำนวน 4 หมายจับ จนกระทั่งถูกจับกุมในคดีนี้ ส่วนนายวีระพงษ์ฯ ผู้รับซื้อรถ เคยถูกต้องโทษในความผิดฐาน“พยายามฆ่าผู้อื่น,ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายฯ”พ้นโทษเมื่อปี 2557 ขยายผล เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม จึงได้นำหมายค้นตามหมายค้นศาลจังหวัดนครพนม ที่ ค.47/2566 ลงวันที่ 18 มี.ค. 2566 ตรวจค้นห้องเช่าแห่งหนึ่ง (รวมจำนวน 4 ห้อง) ในเขต อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ผลการตรวจค้นพบ (1.) อาวุธปืนสงคราม ปืนยาว AK-47 จำนวน 1 กระบอก (2.) ซองกระสุน AK-47 จำนวน 2 ซอง (3.) เครื่องกระสุนปืน ขนาด 7.62 มม. จำนวน 13 นัด (4.) เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22lr จำนวน 20 นัด (5.) รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน (6.) รถจักรยานยนต์ จำนวน 34 คัน (7.) อะไหล่ส่วนควบรถจักรยานยนต์ (8.) อุปกรณ์เครื่องมือช่าง โดยสภาพห้องพักทั้ง 4 ห้อง เป็นห้องที่เช่าโดยชื่อบุคคลคนเดียว และสภาพไม่ใช่การเช่าไว้เพื่ออยู่อาศัย เป็นลักษณะการเช่าไว้เพื่อลักลอบเก็บรถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการกระทำผิดเพื่อรอส่งขายต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า จากสืบสวนขยายผลขนออก หมายจับ นาย นายไพรณรงค์ อายุ 24 ปี (ผู้เช่าและครอบครองห้องพักและหลบหนีไปขณะเข้าตรวจค้น) ที่อยู่ 427 ม.1 ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าหลังเกิดเหตุ ได้หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 3 หมายจับ ได้แก่1.หมายจับของจังหวัดนครพนม ที่ จ.72/2566 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2566 ในฐานความผิด ซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตตรา 55 (มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง) (มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง)” 2. หมายจับศาลจังหวัดนครพนม ที่ 73/2566 ลง 21 มีนาคม 2566 ข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน,รับของโจร 3.หมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ 86/2566 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์(รถจักรยานยนต์)ในเคหสถานหรือรับของโจร” และอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายแก๊งลักรถจักรยานยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีอยู่อีกต่อไป