สุพรรณบุรี-ครบรอบ 4 ปี ศูนย์ผ่าตัดหัวใจเจ้าพระยายมราช

สุพรรณบุรี-ครบรอบ 4 ปี ศูนย์ผ่าตัดหัวใจเจ้าพระยายมราช

ภาพ-ข่าว:มงคล/รัตนา/พงศกร สว่างศรี

            นายแพทย์อิทธิพล จรัสโอฬาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี นพ.พีรพัฒน์ คงมาลัย หัวหน้าหน่วยศัลยกรรมหัวใจหลอดเลือดและทรวงอก ศูนย์โรคหัวใจโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช นายสรชัด สุจิตต์ สส.สุพรรณบุรี ร่วมกันเปิดงานครบรอบ 4 ปี ตั้งศูนย์ผ่าตัดหัวใจ โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ณ ห้องประชุมชั้น 10 ตึกอำนวยการ โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช
              ด้านนายแพทย์อิทธิพล จรัสโอฬาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่าศูนย์โรคหัวใจโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เปิดบริการประชาชน เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 อาคารศูนย์โรคหัวใจ CARDIAC CENTER ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชสุพรรณบุรี ตามที่กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการ การแพทย์เชี่ยวชาญในทุกเขตสุขภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ ลดรอคอย ลดอัตราการเสียชีวิต ไม่ต้องเดินทางไปรักษา ที่กรุงเทพมหานคร และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ รพศ.เจ้าพระยายมราช ได้มีข้อตกลงรับเป็นศูนย์นิสิตแพทย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่เริ่มรับในปีการศึกษานี่ ยิ่งทำให้ทีมงานต้องเพิ่มขีดความสามารถทั้งทางทักษะและวิชาการเพิ่มมากขึ้น

            ด้าน นพ.พีรพัฒน์ คงมาลัย หัวหน้าหน่วยศัลยกรรมหัวใจหลอดเลือดและทรวงอก ศูนย์โรคหัวใจโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานครบรอบเปิดศูนย์ผ่าตัดหัวใจ ครบ 4 ปี นับตั้งแต่ผ่าตัดหัวใจเคสแรก คือวันที่ 8 สิงหาคม 2562 ทำ Aortic valve replacement จนถึงปัจจุบัน มีปัญหาอุปสรรคมากมาย ทั้งด้านเครื่องอุปกรณ์ งบประมาณ และกำลังคน อีกทั้งได้รับบริจาคจากโครงการ ก้าวคนละก้าวทำให้สามารถขับเคลื่อนได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทีมพยายามเพิ่มศักยภาพในการผ่าตัดหัวใจ จากปีแรกจนถึงวันนี้ ผ่าตัดได้มากสุดสัปดาห์ละ 5 ราย คาดว่าปีหน้าเกิน 200 รายแน่นอน โดยมีอัตราการเสียชีวิตที่ 6%
            ทั้งนี้ รพศ.เจ้าพระยายมราช โดยศูนย์ผ่าตัดหัวใจหลอดเลือดและทรวงอกเชิญศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดบายพาสหัวใจโดยไม่ต้องหยุดหัวใจ Prof.Hiroshi Niinami และทีมรวม 3 คน จาก Tokyo Women University Hospital จากประเทศญี่ปุ่นและยังมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน OPCAB ของไทยเรา มาร่วมแลกเปลี่ยนให้ความรู้อีกหลาย topic มาร่วมฉลองครบรอบ 4 ปี โดยร่วมผ่าตัดหัวใจให้แก่ผู้ป่วยร่วมกับทีมศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอกโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชฯ และมีศัลยแพทย์หัวใจ วิสัญญีแพทย์ และพยาบาล จากทั่วประเทศมาศึกษาดูงานร่วมด้วย

              นายแพทย์อิทธิพล จรัสโอฬาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการผ่าตัด เป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าในปัจจุบัน จะเห็นว่าคนไข้ เป็นโรคหัวใจเยอะมาก เส้นเลือดหัวใจตีบหรือว่า จะมี หลอดเลือดหัวใจมีปัญหา ซึ่ง หลายหลายอัน ต้องอาศัยการผ่าตัดเพื่อ จะช่วยชีวิตผู้ป่วย ทีนี้โรงพยาบาล เปิดการผ่าตัดหัวใจมา4ปีเศษแล้ว ก็ผ่าตัดคนไข้ไปได้เยอะ ซึ่งคิวก็เริ่มลดลง แล้วก็ผลลัพธ์ที่ผ่าตัดออกมาดี โดยเฉลี่ยแล้วเนี่ย อัตราเสียชีวิต ต่ำกว่า 5% ซึ่งเป็นระดับ มาตรฐานเดียวกันในประเทศไทย ถือว่าทีมงานเราทำงานได้ดี แต่ว่าปัญหาก็คือ คนไข้ที่มีปัญหาโรคหัวใจก็ยังมีเยอะอยู่ จริงๆเราก็ยังต้องการการผ่าตัด หรือต้องการ เทคโนโลยีหรือเครื่องมือใหม่ใหม่อยู่ ที่จะทำให้การทำงานได้เร็วขึ้น แล้วก็ คนไข้ก็เจ็บตัวน้อยลง เป็นแผลน้อยลง การฟื้นตัวดีขึ้น อันนี้ก็เป็นเทคโนโลยีใหม่
               ซึ่งต้องถามว่า อาจารย์พีรพัฒน์กับทีม ก็พยายามที่จะ ศึกษาเทคโนโลยีหรือเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะไปใช้พัฒนางาน เรื่องอื่นๆ เพราะว่าเท่าที่ทราบการผ่าตัดหัวใจ ในอดีตเรา ต้องเปิดกระดูกหน้าอกทั้งหมด แต่ว่าอันเนี่ยจะเป็นการผ่าตัดหัวใจที่ เราไม่ต้องเปิดกระดูกหน้าอก ใช้เจาะแล้วก็ใส่เครื่องเข้าไป ในการผ่าตัดแล้วก็ เมื่อก่อนเราจะต้องใช้เครื่อง แทนหัวใจแทนปอด แต่ว่าเทคนิคอันเนี่ย เราไม่จำเป็นที่จะต้องหยุดการทำงาน ของหัวใจ ผ่าไปเลยเพราะฉะนั้นเนี่ย การทำงานง่าย ประโยชน์ของคนไข้ได้ดีกว่า การฟื้นตัวก็จะเร็วกว่า อนาคตเนี่ยผมคิดว่า เราก็คงพัฒนาไปเรื่อยๆ

               จากการที่เรากำลังจะร่วมกับ ม.เกษตรฯ เปิดคณะแพทย์ เราต้องพัฒนา เรื่องทั้งความรู้และวิชาการด้วย แล้วก็เรื่องของการ บริการรักษาผู้ป่วยด้วย ไปด้วยกัน คงไม่ใช่ผ่าตัดอย่างเดียว คงต้องทำเรื่องของการศึกษา และการพัฒนาวิจัยไปด้วย จริงๆแล้ว อยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนก็คือ ให้ดูแลสุขภาพตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องหัวใจ เรื่องของการความเครียด เรื่องของการออกกำลังกาย การพักผ่อน การดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ หรือว่าโรคที่ท่านเป็นอยู่ ถ้าท่านควบคุมได้ดีเนี่ย สามารถจะป้องกันไม่ให้การเกิดโรคหัวใจ ได้ง่ายเพราะฉะนั้น ถ้าท่านดูแลตัวเองดี การผ่าตัดอะไรก็จะลดลง แล้วก็ประชาชนก็จะมีสุขภาพที่ดีขึ้น
               นพ.พีรพัฒน์ คงมาลัย หัวหน้าหน่วยศัลยกรรมหัวใจหลอดเลือดและทรวงอก ศูนย์โรคหัวใจโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราชสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่าเป็นการจัดกิจกรรมประชุมวิชาการ เพื่อฉลองครบรอบ 4 ปี ของการผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี คือผมคิดว่าเราได้ทำมาสักระยะหนึ่ง จนมีผลงานระดับหนึ่งที่จะมาพรีเซนต์ก็เป็นโอกาสดีที่ผมได้เชิญโปรเฟสเซอร์ฮิโรชิ มินามิคุณหมอผ่าตัดจากประเทศญี่ปุ่นและก็ทีม ทั้งสามท่าน มาช่วย ผ่าตัดสอนแสดง การผ่าตัดทำใบพัด หลอดเลือดหัวใจโดยที่ ไม่ต้องหยุดหัวใจ ซึ่งก็เป็นเทคนิคที่อาจจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและก็คุณภาพของการผ่าตัดคนไข้โรคหัวใจหลอดเลือดอุดตันได้ดีขึ้น opcab ย่อมาจาก Off-Pump Coronary Artery Bypass เป็นการผ่าตัด Bypass หลอดเลือดหัวใจโดยที่ไม่ต้องหยุดหัวใจคือเดิมปกติเทคนิคสแตนดาร์ดก็ต้องมีการหยุดหัวใจโดยการใช้แคมป์ ไปอุดกั้นหลอดเลือดแดงใหญ่เอวต้า ที่ออกมาจากหัวใจแล้วก็ให้สารเรียกกูว่า สารให้หัวใจหยุดเต้น แล้วก็ทำผ่าตัด Bypass ในหัวใจที่นิ่งนิ่งซึ่งก็จะตรงไปตรงมาไม่มีอะไรแล้วพอผ่าตัดเสร็จก็ต้องกระตุ้นหัวใจให้กลับมาเต้นใหม่

                ซึ่งก็กระบวนการนี้ก็จะเพิ่มการอักเสบในร่างกาย ต้องจำเป็นจะต้องให้ยาละลายลิ่มเลือดในขนาดที่สูง แล้วก็การไปอุดกั้นหลอดเลือดแดงใหญ่ ที่ออกจากหัวใจก็จะมีโอกาส ที่จะเกิดลิ่มเลือด ขึ้นไปกดหลอดเลือดสมองอะไรพวกนี้ ได้เหมือนกัน เพราะงั้นการผ่าตัด op-pump หรือ opcab ก็คือไม่ต้องใช้ อุปกรณ์ เครื่องปอดหัวใจเทียมมาช่วย ไม่ต้องอุดกั้นหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ออกจากหัวใจหัวใจก็จะเต้นเต้นไประหว่างที่เราผ่าตัด แต่ว่าเราใช้เครื่องมือ หน้าตาคล้ายๆซ่อม มากดให้มันอยู่นิ่งนิ่ง แล้วเราก็ผ่าตัด ไปตอนนั้น ซึ่งก็จะลดภาวะแทรก ซ้อน อันพวกนั้นได้ ตอนนี้ผมทำไปประมาณ8เคส ผลก็ออกมาโอเคน่าพอใจ ซึ่งเราก็จะมีความตั้งใจพัฒนาการผ่าตัด แล้วก็ทำอันนี้ต่อไปเรื่อยๆ
                ด้านนายสรชัด สุจิตต์ สส.สุพรรณบุรี กล่าวว่าถือเป็นโอกาสที่ดี ที่มีคณาจารย์ มีองค์ความรู้จากหลายหลายที่ มาอยู่ที่สุพรรณ วันนี้เป็น บรรยากาศของงาน วิชาการที่เราแลกเปลี่ยน องความรู้ ซึ่งกันและกัน ก็ถือเป็นการยกระดับ ในการรักษาอย่างหนึ่ง ทำให้พวกเราทุกๆคน มีการตื่นตัว ผมที่เป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร ได้มาคลุกคลีตรงเนี่ย ได้เห็นว่า ทางคุณหมอบอกว่า เหนื่อยเท่าไหร่คุณหมอก็พร้อมที่จะรักษา ในทางเราก็มองว่าสิ่ง ใดสิ่งหนึ่ง ที่สามารถ จะช่วยในการยกระดับ และทำให้คุณหมอ นั้นได้ทำงาน ได้อย่างเต็มที่ และได้ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่ ก็เป็นความพร้อมที่ ผมว่าคนสุพรรณทุกคน มีความพร้อมที่อยากจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างน้อยผมก็เป็นประตูอันหนึ่งที่ ได้สื่อสารถึงพี่น้องประชาชน และช่วยกันในการขับเคลื่อน แต่ว่าใช่สำคัญครับว่า การไม่ป่วยเลย เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า การส่งเสริมเรื่องสุขภาพ ที่ท่านผู้อำนวยการ พยายาม ที่จะแนะนำ กลับพวกเรา คุณหมอทุกคนพยายามแนะนำกับพวกเราว่า ทั้งอาหารการกินการใช้ชีวิต การพักผ่อน ต่างๆเรื่องพรุ่งนี้ เป็นเหตุที่ถ้าเกิดเราทำได้ดี ทำให้โอกาสคนป่วยเข้าสู่โรงพยาบาล ลดน้อยลงไป

               เรื่องการส่งเสริมด้านสุขภาพ งานป้องกันด้านสุขภาพ ให้คนไม่ป่วย เป็นงานปฐมภูมิ ที่วันนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขเองแล้วก็ ตามรูปแบบการกระจายอำนาจสู่องค์กรป้องครองส่วนท้องถิ่นเนี่ย ก็จะถือว่าเป็นการ ฝ่ายด่านหน้าก็คือพี่น้องประชาชนท้องถิ่น ก็จะเข้ามามีส่วนร่วม ในความสำคัญ งั้นในช่วง ของการเปลี่ยนผ่านตรงนี้ ก็เป็นประการหนึ่งที่ทางการเมืองเองก็พยายามช่วย ส่งเสริมเพื่อให้ บุคคลที่อยู่ ทุกทุกบ้านทุกทุกตำบล ส่งเสริมมากกว่าพี่น้องประชาชน และทำยังไงก็ตามให้พวกเขาเข้าสู่ระบบสุขภาพ ได้อย่างดี อย่างที่ประมาณสักต้นปลายปีที่ผ่านมา จนถึงช่วงต้นปี
                 ทางโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช โดยท่านผอ. ได้ให้ความกรุณา แล้วก็พวกเราก็ได้ประสานงานกับท้องถิ่นในอำเภอเมือง ทั้งหมด 20 ตำบล ทางโรงบาลก็ยกขบวน คุณหมอออกตรวจสุขภาพ เบื้องต้น เราตรวจกันไปเกือบ 10,000 คน เราพบผู้ป่วย ไขมันสูง ประมาณ 1,000 กว่าราย จาก 9,000 กว่าคน เราพบผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน เกือบ 400 คน แล้วก็จากนั้นเราก็ยังพบผู้ป่วยที่ เป็นมะเร็งลำไส้ นะครับน่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ อีกหลายราย เราพบในเรื่องอุจจาระ น่าจะเกือบเกือบ 100 คน ซึ่งเห็นไหมว่า ตัวเลขเนี่ยเป็นตัวเลขที่มากเลยทีเดียว ถ้าเกิดเราส่งเสริมเขาได้อย่างถูกต้อง คือการให้ความร่วมมือให้กับพี่น้องประชาชน การที่เราคัดกรองเขาเข้าสู่ การรักษา ทำให้ต้นทุน ในการรักษาถูกอีกด้วย และอีกอย่างหนึ่งก็คุณภาพชีวิต ของคนไข้เนี่ยก็จะ ดีขึ้นด้วย และโอกาสในการ รอด ในการที่ เขาจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี ในตอนที่อายุมาก งั้นงานเรื่องตรงนี้ เป็นงานที่เราจะต้องช่วยกันส่งเสริม ทั้งต้นทางก็คือในภาค ของประชาชนภาคพื้นฐาน ส่วนรวมถึงในการรักษา ในการยกระดับ เราเชื่อมั่นว่าในอนาคต การยกระดับ เป็นเหมือนสู่ภาวะของสุพรรณบุรี จะต้องทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!