สระบุรี-ชาวบ้านหมอรวมตัวถือป้ายยืนประท้วง สว.จะเอาถนนสาธารณะเป็นของครอบครัว
ภาพ-ข่าว:สมภพ พิมมะศร
วันที่ 4 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า จะมีชาวบ้านรวมตัวกัน บริเวณหน้าเทศบาล ต.บ้านหมอ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ผู้สื่อข่าวจึงเร่งเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ ชาวบ้านจำนวน 50 – 60 คน รวมตัวกัน ยืนถือป้ายเรียกร้องขอความเป็นธรรม ต่อ นาย สุฑฒิชัย วงษ์ไพร นายกเทศมนตรี ต.บ้านหมอ ให้ช่วยทวงถนนที่เคยใช้สัญจรกลับมาให้ชาวบ้านด้วย เนื่องจากถนนสายรองที่ใช้กันอยู่เป็นประจำนั้น ถูกปิดกั้นไม่ให้ผ่านมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ชาวบ้านต้องการให้ทางเทศบาลช่วย เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าว ใช้กันมานานหลายสิบปี แต่เมื่อที่ดินถูกเปลี่ยนมือ ถนนเส้นดังกล่าวต้องถูกปิดห้ามใช้สัญจร เนื่องจากเจ้าของได้อ้างสิทธิ์การครอบครอง โดย นาย สุฑฒิชัย วงษ์ไพร นายกเทศมนตรี ต.บ้านหมอ ได้ออกมารับฟังปัญหาข้อเรียกร้องของชาวบ้าน พร้อมทั้งรับปากว่าวันนี้จะดำเนินการตามที่ชาวบ้านร้องขอ พร้อมทั้งโทรศัพท์แจ้งต่อ นายบุญเลิศ เนตร์ขำ นายอำเภอบ้านหมอ ถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านและขออนุญาติดำเนินการ โดยจะทำรายงานชี้แจงต่อนายอำเภอต่อไป ซึ่งทางนายอำเภอได้รับทราบความเดือดร้อนของชาวบ้านแล้ว
จากนั้น นายสุฑฒิชัย วงษ์ไพร นายกเทศมนตรี ต.บ้านหมอ ได้นำเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาล ต.บ้านหมอ มายังบริเวณถนนที่ชาวบ้านร้องเรียนพร้อมกับกลุ่มชาวบ้าน โดยบริเวณดังกล่าวมีโครงเหล็กยึดติดไว้กับพื้นถนน พร้อมทั้งมีกองทรายขนาดใหญ่ขวางอยู่กลางถนน ทางเจ้าหน้าที่ได้พากันโยกโครงเหล็กจนหลุดออกจากพื้นถนน จึงนำไปวางไว้บริเวณที่ดินของเจ้าของที่ และนำรถของเทศบาลมาช่วยกันขนทรายที่ถูกกองไว้ออก เพื่อเปิดเส้นทางให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรตามที่ร้องขอ
นาย สุฑฒิชัย วงษ์ไพร นายกเทศมนตรี ต.บ้านหมอ กล่าวว่า ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากเจ้าของที่ๆได้ซื้อไป โดยเจ้าของเก่าไม่เคยมาปิดกั้นถนน ทีนี้เจ้าของใหม่ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหตุผลเขา คงจะมีปัญหากับชาวบ้าน ก็เลยออกมาปิดถนนเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ทางหน่วยงานราชการก็คงไม่มีใครกล้าที่จะมาทำอะไร เนื่องจากครอบครัวเขาเป็นญาติกับสว หน่วยงานราชก็เหมือนไม่ค่อยกล้าที่จะทำอะไรที่มันรวดเร็วทันใจ ตามใจประชาชน ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ตนเองทำ ตนทำตามระเบียบกฎหมายที่ตนสามารถทำได้ ในเมื่อประชาชนเดือดร้อน หรือแม้กระทั่งตัวตนเองก็เดือดร้อน เวลาจะเข้าไปทำงานในสำนักงานก็ต้องอ้อม รถก็เดินทางไม่สะดวก วันนี้ในเมื่อมีชาวบ้านมาร้องเรียนอีก ก็เลยตัดสินใจว่าต้องทำเพื่อประชาชนแลประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งเขาจะมาเอาประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้ เพราะจริงๆแล้วถนนเส้นนี้ใช้งานมา 70 ปีแล้ว งบประมาณก็ใช้ของหลวง ตั้งแต่กรรมการสุขาฯที่เจ้าของเดิม นาย ชาญ ชัยกูล เป็นเจ้าของที่ ขายให้กับตระกูล สว. สมัยนั้น นาย ชาญ ก็ปล่อย เพราะในสมัยนั้น นาย ชาญ ก็เป็นกรรมการสุขาฯ ก็ปล่อยให้เอางบของทางราชการมาทำ จนตนเองมาเป็นประธานสุขาฯ จนถึงปัจจุบันนี้ 30 กว่าปีแล้วถนนเส้นนี้ แต่เจ้าของที่ซื้อใหม่ก็มาอ้างสิทธิ์ว่า ในโฉนดไม่มีรูปถนน จึงมาทำการปิดถนนเพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรไปมา
ตนเองว่ามันไม่ถูกต้อง ก็เลยทำเรื่องยื่นต่อศาล ว่า ให้แบ่งออกในโฉนดของเขาให้เป็นทางสาธารณะ เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาร้องเรียนกันอีก ซึ่งเป็นคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้เทศบาลดำเนินการ มีการติดต่อเจรจาตลอด แต่เขาไม่ยอม ตนเองมารื้อไป 2 ครั้งแล้ว แต่เขาก็เอามาตั้งใหม่อีก เบื้องต้นได้ประสานผู้ใหญ่ในพื้นที่แล้ว โดยมีท่านนายอำเภอเป็นที่ปรึกษาอยู่ ซึ่งทางเราเองนั้นก็ติดต่อทางจังหวัดตลอด ทางจังหวัดก็มีหนังสือจากผู้ว่า ให้เทศบาลดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่ของเทศบาล และเวลาตนเองรื้อทีไร เขาก็แจ้งอยู่แล้ว ว่า ตนทำลายทรัพย์สินของเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวัสดุตรงนี้ เราก็จะเอาไปกองในที่ของเขา ทางคู่กรณีเคยออกมาด่าตนเองเมื่อครั้งที่แล้ว พาเจ้าหน้าที่มาดำเนินการรื้อถอน ก็ด่าตน ซึ่งมีคลิปมีอะไรเรียบร้อย ส่วนถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางรอง ซึ่งเส้นทางหลักจะเป็นด้านหลัง แต่ที่นี่ก็เป็นด้านหลัง เป็นถนนที่อยู่ในโฉนดเขาเหมือนกัน ณ ปัจจุบัน มีถนนที่ใช้สัญจรอยู่ในโฉนด 5 เส้นที่มีปัญหากัน เหมือนกับถนนเส้นนี้เป็นทางลัดด้วย ซึ่งจะออกไปหมู่บ้าน ม.3 เข้าวัดบ้านหมอ ชาวบ้านก็ใช้สัญจรทุกวัน มีประชาชนที่เดือนร้อน ประมาณ 600 -700 คน ถ้าไม่ใช้เส้นทางนี้ ระยะในการเดินทาง ก็เป็นกิโล และส่วนหนึ่งคือถนนหน้าเทศบาลฯมันเป็นทางมันแคบและวันเวย์อีกด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังคู่กรณี เพื่อสอบถามถึงข้อพิพาทที่เกิดขึ้น จนมีชาวบ้านมารวมตัวกัน ร้องขอให้ทางนายกเทศมนตรีตำบลบ้านหมอช่วยเหลือ โดย นางสุขาดา ด่านวัฒนา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลขีดขิน อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปี ว่า จริงๆแล้ว เราต้องบอกว่า ที่แปลงนี้เราซื้อมาถูกต้องตามกฎหมาย ในช่วงที่เราซื้อปี2554 ซึ่งเมื่อปี2554 ทางเทศบาลเอง ก็เคยเช่ากับเจ้าของเดิม เพื่อจะทำที่จอดรถให้กับประชาชน เช่าทำที่เก็บของ ทำเป็นกองชั่ง ผลปรากฏว่า พอเรามาซื้อต่อจากคนเดิม เราก็เรียกเขามาทำสัญญาใหม่กับเรา แต่ทางเทศบาลปฏิเสธที่จะทำสัญญากับเรา ว่า พี่สาวเราเป็นสท.อยู่ในนั้น มีผลประโยชน์ซับซ้อน เราจึงได้บอกว่า ถ้าคุณไม่ทำสัญญา คุณก็ย้ายของที่คุณมาเช่ากับเจ้าของเก่าออก ทรัพย์สินของคุณเอาออกให้หมด แต่เขาก็ไม่ออก เราจึงได้ฟ้องดำเนินคดีขับไล่รื้อถอน เมื่อปี 2556 จนขับไล่รื้อถอนกันมาเสร็จ ทางเทศบาลเขาก็สู้มาว่าเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินทั้งแปลง แต่ทางเรามีโฉนด ปรากฏว่า ศาลตัดสินมาจนถึงศาลฎีกาแล้ว ซึ่งก็ตัดสินว่า เป็นของเราทั้งแปลง ถึง 3 ศาลแล้วก็จบที่ตรงนั้น พวกป้ายที่เคยมาติดประชาสัมพันธ์ของเทศบาล เขาก็รื้อออหมด ซึ่งเขาก็ยอมรับคำสั่งศาลว่า มันเป็นที่ของเรา ต่อมาปี2560 ก็มาฟ้องเราอีก จะเอาถนนของเรา ซึ่งถนนของเรามีทั้งหมด 4 เส้น ทางอื่นเราก็เปิดให้ไม่ได้ปิด แต่ทีนี้พอเขาได้ฟ้องเราแล้ว ว่าจะเอาถนนเป็นสาธารณะ
เมื่อปี2562 ศาลก็ได้มีการทำสัญญายอมกัน ทางเทศบาลก็ยอมว่า เข้าใจผิด ซึ่งต่างคนต่างเข้าใจผิด เพราะเราก็บอกว่า จริงๆแล้ว เราเขาไปทำตรงนี้ เพื่อที่จะไปพัฒนาที่ของเรา เพราะเราซื้อมาก็หวังจะพัฒนาให้เจริญขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เราซื้อมา เราทำอะไรไม่ได้เลย ติดอยู่แต่ที่คดี พอเราซื้อมาก็เริ่มเป็นคดีกับเขา และพอมาเสร็จคดี ปี2560 เขาก็ไม่ยอมมาฟ้องเอาถนนกับเราอีก และปรากฏว่า ได้คุยไกล่เกลี่ยกัน เป็นอันตกลงว่า เป็นสัญญายอม ซึ่งเขาก็ยอม เราก็ยอม เพราะว่า เส้นใหญ่ที่เข้าอำเภอ เราไม่ปิด จะยกให้เป็นสาธารณะสมบัติ ก็ต่อเมื่อเราได้พัฒนาที่ดินเสร็จแล้ว และในคำพิพากษา เขียนว่า ที่แปลงนี้ทั้ง 2 ฝ่าย เข้าใจกันแล้วไม่สามารถที่จะเอากลับมาฟ้องร้องกันอีกได้ ซึ่งเราก็คิดว่าจบกันด้วยดีแล้ว นึกว่าไม่มีอะไร เราจึงไปทำการติดป้ายเพื่อที่จะให้ชาวบ้านเขารู้ว่า เราเป็นเจ้าของนะ ถนนเส้นนี้ไม่ได้เป็นสาธารณะ เราก็ทำที่กันเป็นส่วนบุคคล สำหรับรถวิ่ง ถ้าเป็นพวกรถสูงมาก เราก็ไม่ให้วิ่งเข้าไป ซึ่งครั้งก่อนเราได้ทำไว้แล้ว มีแบริเออร์มาปิด เพื่อที่เราจะทำการปรับปรุงถนน ปรากฏว่าเขาก็มารื้อออกไป เมื่อปี2564 มารื้อออกหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น ไม้ที่เราตีไว้ หรือเหล็กก็ตัดออกหมด เราก็แจ้งความดำเนินคดีมาแล้วรอบนึง ว่า เขาบุกรุกพร้อมพนักงานเทศบาล 25 คน ที่ไปช่วยกันตัดช่วยกันรื้อเอาของเราออกมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งไม่ฟ้อง และเที่ยวนี้ก็มาทำอีก แล้วนี่ก็เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เข้ามาบุกรุกทำลายทรัพย์ของเรา และบ้านเมืองจะอยู่กันยังไง
เมื่อปี 2565 เขาก็มาฟ้องเราใหม่ ฟ้องจะเอาถนนอีก ในวันพรุ่งนี้ศาลนัดสืบพยาน ทำไมเขาถึงไม่รอให้ศาลตัดสินก่อน ทำไมถึงมาทำแบบนี้ อีกแค่วันเดียวเอง เพราะพรุ่งนี้ตัวเขาเองก็ต้องไปขึ้นศาล สรุปแล้วที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเมืองแน่นอน เพราะเราเป็นคู่แข่งทางการเมืองของเขาอยู่แล้ว เดี๋ยวตนจะต้องไปแถลงศาลให้เขารับทราบว่าเขามาทำแบบนี้ และจะไปขอความเป็นธรรมกับท่านผู้ว่าฯ เนื่องจากวันนี้ผู้ว่าฯนัดตนไว้ เวลา 14.30 น. จะไปขอให้เขาระงับ เพราะเขามีจดหมายมา เมื่อวันที่ 1 ก.ย.66 ว่าให้ตนไปขนของที่เขารื้อวันนี้ออกให้หมด ซึ่งตนเองกำลังจะทำเรื่องโต้แย้งเขาไปว่า ให้รอก่อน ให้รอศาลตัดสิน เพราะวันที่ 5 ก.ย.66.นี้ เราจะขึ้นศาลกันอยู่แล้ว ทำไมต้องมาให้เรารื้อในเมื่อเขาสู่ขบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ต้องรอคำตัดสิน แต่มาทำแบบนี้ถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน
ตอนนั้นเราเคยได้ไปฟ้องเรื่องถนนอีกทีหนึ่ง เราก็ไปแจ้งกับทางศาลว่า ถนนในที่นี้มันเป็นของเรา ศาลก็ยกฟ้อง บอกว่า เป็นการพิจารณาซ้ำ เพราะในเมื่อโฉนดเป็นของคุณทั้งใบอยู่แล้ว ถนนมันก็ต้องเป็นของคุณ ซึ่งเที่ยวที่แล้ว ที่ฟ้องว่าเขาบุกรุก ตำรวจก็ทำหนังสือสอบถามไปทางที่ดิน ว่า ที่โฉนดแปลงนี้ มีภาระจำยอม มีถนนสาธารณะอยู่ในที่แปลงนี้มั้ย ทางที่ดินก็ตอบกลับมาว่าไม่มี เป็นที่ดินผืนเดียวกันหมด ไม่มีภาระจำยอม และไม่มีถนนสาธารณะอยู่ในที่แปลงนี้ ก็ทำหนังสือตามกลับมาที่โรงพัก ซึ่งเอกสารนี้เราก็ยังมีอยู่ เอกสารเรามีทุกอย่าง เอาจริงๆแล้ว เหมือนกับใช้อำนาจหน้าที่ส่วนตัว และมาใช้หน่วยราชการรังแกเราแบบนี้ เงินก็ไม่ต้องเสีย ใช้เงินหลวงมาฟ้องร้องเรา ทั้งๆที่เราเป็นเอกชนต้องจ่ายทุกบาท ทุกสตางค์ ตั้งแต่ซื้อที่แปลงนี้มาค่าทนายเราหมดไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ไม่รู้กี่ล้านแล้ว ส่วนตัวเขาไม่ต้องเสียไง คดีแรกเขาใช้อัยการ พอแพ้เราอัยการเขาก็ไม่มาฟ้องให้ ตานี้จะฟ้องอีกก็ต้องฟ้องเอง เอาเทศบาลมาฟ้อง
ตนเองให้หน่วยราชการ ให้ความเป็นธรรมกับเรา อยากพูดถึงผู้ว่าฯและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ลงมาตรวจสอบหน่อยว่าเทศบาลบ้านหมอ ทำถูกต้องไหม รังแกประชาชนขนาดนี้ โดยที่เอาความแค้นส่วนตัว และมาใช้หน่วยราชการทำร้ายเราแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ในเมื่อคุณอยากจะสู้กับเรา เอาเงินคุณมาสู้สิ ในเมื่อคุณว่าเราผิดจริง เอาเงินคุณมา คุณจะมาเอาเทศบาลมาเป็นเกาะคุ้มกันคุณ แต่คุณก็อ้างว่าทำให้หลวง และมาเบี่ยงเบนประชาชนแบบนี้มันไม่ถูกหลอก ท่านช่วยไประงับเหตุให้หน่อยได้มั้ย เพราะพรุ่งนี้จะขึ้นศาล ทำไมถึงมาทำแบบนี้ ปรากฏตำรวจบอกว่า จะให้ผมทำยังไง และยังงี้จะพึ่งอะไรได้ เป็นตำรวจต้องรีบออกไป เพราะมันเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า อย่างนี้มันต้องรีบออก ข้อหาบุรุก ตนจึงได้ถามตำรวจกลับไปว่า ฉันเป็นประชาชน ฉันจะรู้มั้ยว่าคุณจะไปได้ยังไง คุณมีหน้าที่ต้องไปทำ คุณยังไม่รู้เลยว่าคุณจะไปทำยังไง แต่กลับมาถามฉัน เมื่อกี้ฉันอยู่ที่โรงพักนึงแล้ว และบ้านป่าเมืองเถื่อนแบบนี้ จะอยู่ได้ยังไง นึกอยากจะทำไรก็ทำ ตอนนี้พึ่งอะไรไม่ได้เลย เราก็ไปขอความเป็นธรรมที่ภูธรภาค1 เรื่องก็ยังไม่มา