“เตือนไม่ฟัง สุดท้ายก็ต้องมานอนติดเตียง”-ธรรมมะดีๆจากหลวงพี่น้ำฝน
เรื่องโดย:พระครูปลัดสิทธิวัฒน์(หลวงพี่น้ำฝน)
เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน คำพระคำบาลีท่านว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ คำนี้เป็นจริงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนที่มีโรคเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อเป็นก็ทรมานทั้งกายและใจ ต่อเมื่อหายแล้วก็จึงรู้ซึ้งคำนี้ว่า ไม่ว่าชีวิตขณะไม่มีโรคจะเป็นอย่างไร จะแย่ขนาดไหน แต่ถ้ามีโรคเกิดขึ้นมากับตัวแล้ว มันแย่กว่าคูณสอง
คนเราต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของธรรมดา แต่ในสี่ข้อนี้มันมีข้อหนึ่งที่เราสามารถป้องกัน หรือบรรเทามิให้มันหนักหนาสาหัสกว่าที่ควรได้ ก็คือเรื่องเจ็บ เกิดนั้นก็ตามกรรมนำพา แก่ก็เป็นไปตามไตรลักษณ์ ตายก็เป็นสัจธรรม เจ็บก็ต้องเจ็บ จะเจ็บไข้หรือเจ็บอุบัติเหตุ มากน้อยต่างกันไป แต่ว่ามันบรรเทาลงได้ เช่นเดียวกับที่บางคนก็ซ้ำเติมให้มันเจ็บขึ้นได้เช่นกัน เอาเป็นว่าในข้อเจ็บนี้ คนเราจะให้มันเจ็บน้อยลงก็ได้ เจ็บมากขึ้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตนของตนเอง
เมื่อวันก่อนอาตมาไปเยี่ยมลูกศิษย์คนหนึ่ง เป็นศิษย์กันมาก็ยาวนาน สนิทกันเหมือนญาติ ขออนุญาตเรียกว่า เฮียตี๋ เฮียตี๋ที่อาตมาเห็นนั้น สภาพน่าสงสารมาก กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร พูดก็ไม่ออก ต้องทำกายภาพบำบัด หนักสุดคือหน้าตาไม่สู้ดี ไม่มีชีวิตชีวา ช่างแตกต่างจากเฮียตี๋ที่อาตมาเคยรู้จัก
เฮียตี๋เคยอยู่อาศัยที่ลอสแองเจอลิส สหรัฐอเมริกา เฮียเป็นคนมีชีวิตชีวา ชีวิตมีสีสัน เพราะสำราญกายใจทุกวัน เบียร์ สุรา ไวน์ ดื่มได้ทุกวัน เมาทุกวัน และเป็นคนที่พักผ่อนน้อย สมัยที่โควิดระบาดหนักนั้น เฮียตี๋ก็ติดด้วย อาการเรียกได้ว่าปางตายเพราะร่างกายเฮียตี๋ไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น ก็ซ่อนโรคจากพิษสุราเอาไว้ ก็ติดง่ายด้วย อาการหนักมากด้วย อาการตอนนั้นคิดว่าตายแน่แท้ ตายแน่ ๆ แต่เฮียตี๋ก็ไม่ตาย ผ่านพ้นโควิดมาได้ อาตมาก็ค่อยสบายใจขึ้นมา
เฮียตี๋ได้มาบวชที่วัดไผ่ล้อมระยะหนึ่ง อาตมาก็ถือโอกาสนี้เตือนถึงเรื่องพิษภัยของสุรา หมอก็ห้ามไว้ว่าอย่าดื่มอย่าเมา มันเป็นโทษ อาตมาก็เตือนว่าถ้ากลับตัวได้ก็กลับนะ สุราน่ะไม่ใช่ของดีอะไร มีแต่จะทำให้เกิดปัญหา ไม่เกิดวันนี้ก็ไปเกิดในอีกสักวัน ถ้าไม่ไปเมาทำเรื่องผิดกฎหมายก็ตกน้ำตกท่า หรือไม่ก็มีโรคร้ายขึ้นมาให้ปวดหัว ขอให้โยมไปคิดพิจารณาดู
อาตมาขอให้ญาติโยมสังเกตดูว่า พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่าสุราเป็นของร้ายแรงขนาดไหน ขนาดว่าศีลห้า ซึ่งพระพุทธองค์จัดไว้ว่าเป็นนิจศีล เป็นศีลที่ควรจะรักษาเอาไว้เป็นนิจ ไม่ใช่ศีลของผู้ถือพรตนักบวชอะไรเลย ยังห้ามเรื่องดื่มสุรา แสดงว่าพระพุทธองค์ย่อมเล็งเห็นแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ถึงสุราจะไม่ได้ทำให้บางคนต้องกลายเป็นคนชั่ว แต่สุราทำให้ร่างกายธาตุขันธ์ของคนถูกทำลาย เมื่อร่างกายไม่ดี ที่ไหนเลยจิตใจจะดีด้วย โบราณว่าจิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ถ้าบ่าวมันไม่ได้เรื่อง มันทำตามนายไม่ได้ นายก็กลุ้ม นายก็ทุกข์ เปรียบเทียบกันแบบนี้
อาตมามองไปยังเฮียตี๋ สภาพที่เห็นทำให้อาตมาบอกว่า พูดให้ฟังแล้วก็ไม่เชื่อ จะแก้ไขก็ยากแล้วในตอนนี้…
ร่างกายมันเป็นของใช้แล้วทิ้ง มันเกิดขึ้นมาแล้วมันก็ถูกใช้งาน และเสื่อมสภาพไปเรื่อย ๆ แม้ร่างกายจะฟื้นฟูตนเองได้ แต่ร่างกายก็ไม่ได้อยู่นอกกฎไตรลักษณ์แต่อย่างใด ถึงฟื้นได้แต่ก็ไม่เท่าเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่งมีสิ่งที่จะทำลายร่างกายเพิ่ม มันก็ยิ่งเร็วขึ้น จนสุดท้ายก็เกินควบคุม เกินกำลังที่ร่างกายจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ และสุดท้ายก็ต้องเจ็บป่วยเมื่อถึงคราว
อาตมาเป็นคนที่สัมผัสได้ถึงพิษภัยของสุราตั้งแต่ยังเด็ก เพราะโยมบิดาของอาตมาก็ต้องจากโลกนี้ไปแต่อาตมายังเล็กด้วยเหตุของสุรา อาตมาจึงชิงชังสุรายาเมามาแต่เด็ก แม้อยู่ในสังคมที่การดื่มสุราเป็นเรื่องปกติ อาตมาก็ไม่ขอยุ่ง ว่าฝังใจก็ว่าได้ จนเมื่ออาตมาเป็นพระ ได้มีโอกาสสั่งสอนศีลธรรม อาตมาก็เอาเรื่องสุราเป็นเรื่องสำคัญโดยตลอด แม้แต่เด็กวัดไผ่ล้อม เรื่องสุราเมรัยก็เป็นกฎข้อใหญ่ที่สำคัญมาก เพราะอาตมาไม่อยากให้ผลร้ายเกิดแก่คนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางใดก็ตาม
อย่าลืมดูแลสุขภาพตนเองให้ดี ใคร ๆ ก็อยากให้พระท่านให้พรว่า ขอให้รวย ขอให้สำเร็จ ไปขออะไรมากมาย แต่อย่าลืมพรข้อนี้คือขอให้สุขภาพดี เพราะร่างกายเราคือยานที่จะนำพาเราไปสู่สิ่งที่ตั้งใจ ถ้ายานไม่ดีไม่มีคุณภาพแล้ว คนขับยานจะเก่งขนาดไหนยานก็พาไปไม่ได้ แต่ถ้าร่างกายดี จิตใจก็ดี เมื่อจิตใจดี ร่างกายก็ดี มันเป็นแบบนี้ อาตมาก็ขออวยพรให้ญาติโยมผู้อ่านมีร่างกายที่ดี จิตใจที่ดี เพื่อจะนำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จต่อไป ขอเจริญพร