เชียงใหม่-รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายและติดตามการเตรียมความพร้อม รับมือไฟป่า-หมอกควันภาคเหนือ

เชียงใหม่-รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายและติดตามการเตรียมความพร้อม รับมือไฟป่า-หมอกควันภาคเหนือ

ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวจังหวัดเชียงใหม่

             รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่มอบนโยบายและ ติดตามการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า-หมอกควันภาคเหนือล่วงหน้า ที่ จังหวัดเชียงใหม่ ย้ำทุกภาคส่วนปฏิบัติการด้วยความ “แม่นยำ รวดเร็ว ทันห่วงที มีประสิทธิภาพ”
              วันนี้ (8 พ.ย. 66) พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจเยี่ยม มอบนโยบาย และติดตามการเตรียมการความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5 ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 17 จังหวัด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ให้เร่งรัดดำเนินมาตรการ เพื่อลดฝุ่นควัน PM 2.5 ทั้งระบบให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และปฏิบัติการด้วยความ “เม่นยำ รวดเร็ว ทันท่วงที มีประสิทธิภาพ” โดยมี ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ , ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 ภาคเหนือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
                 พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวว่า สถานการณ์ปี 2566 เกิดฝุ่น PM 2.5 และจุดความร้อนมีปริมาณสูงกว่าปีที่ผ่านมา และในปี 2567 คาดว่าปรากฎการณ์เอลนีโญ จะทำให้สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง มีความรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าวที่จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน จึงได้ตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหา มลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน และเร่งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับพื้นที่เพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่งหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการเตรียมการล่วงหน้าเพื่อรับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อดำเนินมาตรการป้องกัน ลดฝุ่นควัน PM 2.5 ทั้งระบบ เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นที่คาดว่า จะรุนแรงได้อย่างทันท่วงที
                  สำหรับแนวทางการดำเนินงานนั้น ได้เน้นย้ำให้เกิดการสื่อสารในทุกระดับของภาครัฐ ต้องเข้าใจแนวทางปฏิบัติที่จะควบคุมให้ลดการเผาไหม้ทั้งในพื้นที่เกษตรเผาไหม้ซ้ำชาก ในส่วนของพื้นที่ป่า จะมุ่งเป้าไปที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ ที่มีสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงในเขตพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเน้นการตรึงพื้นที่ให้มีจุดเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในทุกพื้นที่ป่า การจัดระเบียบการเก็บหาของป่าโดยอนุญาตเฉพาะคนในพื้นที่เท่านั้น ผ่านการลงทะเบียนรายบุคคลในพื้นที่ป่าที่เป็นพื้นที่เสี่ยง
                 โดยก่อนห้วงฤดูไฟป่าได้วางแผนให้มีการจัดการเชื้อเพลิงในห้วงเวลาที่เหมาะสม พร้อมทั้งตั้งจุดเฝ้าระวังเพื่อกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จะต้องมีจุดตรวจ/จุดสกัด เพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบเผาป่า เมื่อเข้าสู่ห้วงฤดูไฟป่าจะต้องมีผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์ในระดับพื้นที่ มีกำลังพลและเครื่องมือพร้อมปฏิบัติการดับไฟป่าอย่างทันท่วงที โดยตั้งเป้าลดพื้นที่ไฟป่าให้ลดลง 50 % จากปี 2566 นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ จะประสานงานและเจรจาขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในระดับอาเซียน และระดับพหุภาคี เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเต็มที่
                 โอกาสนี้ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฯ ยังได้ตรวจความพร้อมของหน่วยงานทุกหน่วยปฏิบัติการ และกล่าวขอบคุณพร้อมให้กำลังใจกำลังพลและเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและ PM 2.5 และยังได้แสดงความชื่นชมทุกฝ่ายที่เสียสละแรงกาย และแรงใจ เพื่อชาติ บ้านเมือง และประชาชน โดยเน้นย้ำว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและ PM 2.5 อย่างเต็มที่

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!