ปราจีนบุรี-ลูกตามหาพ่อหายตัวกลางดึกเชื่อถูกผีเข้า

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ/ทองสุข สิงห์พิมพ์  

                วันนี้ 8 พ.ย.66ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่าได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวแจ้งที่หมู่บ้านหนองกุลา หมู่ที่13 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้มีคนหายตัวลึกลับออกจากบ้านเมื่อคืนวานนี้ (7 พ.ย.66) คนที่หายตัวชื่อลุงคูณ ลานอก อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/2 ม.13 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทางครอบครัวต่างพากันเป็นห่วง ประกอบด้วยลูกชายและญาติหลังพากันออกตามหารอบหมู่บ้านตลอดคืน แต่ก็ไม่พบตัว กระทั่งเช้าญาติได้ออกตามหาในหมู่บ้านอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับได้ขับรถจักรยานยนต์ออกตามหาตามเส้นทางรอบๆหมู่บ้าน เกรงว่าอาจจะแอบอยู่ในป่าละเมาะ ตามหานานกว่า 6 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบตัว หลายคนบอกว่าอาจจะถูกผีเข้าสิงทำให้เดินไปแอบอยู่ในป่า และได้ออกติดตามค้นหาในป่าช้าเก่าแก่ของหมู่บ้าน แต่ก็ยังไม่พบตัวเช่นเดิม

               กระทั่งเวลา14:00น.วันนี้(8พ.ย.)ขณะที่ลูกชายได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามหาพ่อในป่าท้ายหมู่บ้าน จู่ๆได้รับโทรศัพท์โทรแจ้งเข้ามาว่า ขณะนี้พ่ออยู่ที่สำนักสงฆ์ทรัพย์เจริญธรรมบ้านสวน ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีที่อยู่ไกลกันมากกว่า 33 กม.เศษ นายอนุชา ลานอก (ลูกชาย) จึงกลับมาบ้านและบอกญาติให้ไปรับตัวพ่อที่สำนักสงฆ์ ทราบต่อมาว่าพ่อเดินเท้าไปขอความช่วยเหลือจากพระ
                พระธวัชชัย ถาวโร พระลูกวัดสำนักสงฆ์ทรัพย์เจริญธรรม ผู้พบเห็น กล่าวว่า ขณะที่ทำกิจของสงฆ์อยู่ภายในสำนักฯมีโยมสูงวัยคนหนึ่งเข้ามาหาและบอกว่า ขอน้ำกินหน่อย ด้วยความหิวกระหาย จึงได้ถามว่ามาจากไหน – จะไปไหน ได้รับคำตอบว่าหลงทางมาจะกลับบ้านกลับไม่ถูก และถามว่าจำเบอร์โทรศัพท์ได้ไหม จากนั้นได้จดเบอร์โทรศัพท์ให้จึงโทรหาตามเบอร์ที่ให้ไว้ เบอร์โทรศัพท์ที่โทรไปบอกว่าเป็นลูกชายของโยมผู้ชาย จึงให้มารับตัวกลับบ้าน จากนั้นให้ข้าวและให้ขนมกินและให้พักผ่อนรอลูกอยู่ที่ม้าหินอ่อน
                 ลุงคูณ เล่าว่า เมื่อคืนมีผู้หญิงมาบอกให้เดินตามไป จึงได้เดินตามมาเรื่อยๆตลอดทั้งคืน โดยเดินเรื่อย ๆ ไปตามถนน กระทั่งมาขอน้ำกราบพระกิน พระท่านเมตตาให้ข้าวกินด้วย คิดถึงลูกอยากกลับบ้าน
                 นายอนุชา บุตรชายลุงคุณ บอกว่า ตนมารับตัวพ่อ พบว่าพ่อยังมีอาการเบลอๆเหม่อลอย พูดจาด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา เหมือนคนถูกวิญญาณเข้าสิง ตนจึงจุดธูปขอขมาแผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวร เพื่อให้พ่อกลับมามีอาการปกติ ซึ่งพ่อได้เล่าให้ฟังว่าก่อนจะหายตัวออกจากบ้านช่วงเวลากลางคืนนั้น ก่อนหน้านี้ 3 วันที่ผ่านมาพ่ได้เริ่มมีอาการเบลอเหม่อลอยพูดจาด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา และหลังจากนั้นได้เดินเท้าออกจากบ้านไปถึงสำนักสงฆ์ดังกล่าวระยะทางไกล 33 กม. ตนรู้สึกดีใจที่ได้พบพ่ออยู่ที่สำนักสงฆ์ ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยออกติดตามหาพ่อจนพบและจะจุดธูปขอขมากรรมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระภูมิเจ้าที่ ขอให้อโหสิกรรมกับพ่อที่อาจจะล่วงเกินทางกายวาจาใจโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ