6 เดือนเต็ม กกต.ทำอะไรอยู่..!! ปล่อยให้ ส.ส.ถูกร้องเรียน นั่งชูคอกินเงินเดือนอยู่ในสภา หรือกลัวเหมือนกรณีเขต 8 เชียงใหม่

6 เดือนเต็ม กกต.ทำอะไรอยู่..!! ปล่อยให้ ส.ส.ถูกร้องเรียน นั่งชูคอกินเงินเดือนอยู่ในสภา หรือกลัวเหมือนกรณีเขต 8 เชียงใหม่

ภาพ-ข่าว:นายหัวไทร

6 เดือนเต็ม กกต.ทำอะไรอยู่..!! ไม่เร่งพิจารณาเรื่องร้องเรียนผู้สมัคร ส.ส.สอบตกปล่อยให้ ส.ส.ถูกร้องเรียน นั่งชูคอกินเงินเดือนอยู่ในสภา หรือกลัวเหมือนกรณีเขต 8 เชียงใหม่

             ครบ 6 เดือนเต็มแล้วที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา จำนวน สส.เขต 400 สส.บัญชีรายชื่อ 100 คน รวมเป็น 500 คน กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง สส.ทุกคนที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดในระบบเขตเลือกตั้ง ท่ามกลางการร้องเรียนเรื่องการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากมาย จน กกต.ทำงานไม่ทัน มีเรื่องร้องเรียนทั้งซื้อเสียงเลือกตั้ง จัดเลี้ยง กล่าวหาว่าร้าย (ใส่ร้าย) คู่แข่ง แต่ กกต.ไม่มีปัญญาจับคนทำผิดกฎหมายได้เลยแม้แต่รายเดียว ทั้งๆที่ กกต.มีกลไกมากมาย ทั้งส่วนกลาง และระดับจังหวัด ทั้งยังมีผู้ตรวจการเลือกตั้งเป็นตัวช่วยอยู่อีกด้วย

             ชาวบ้านทุกหย่อมหญ้ารับรู้รับทราบถึงการซื้อเสียงกันครึกโครม ตั้งแต่หัวละ 500-2000 บาท แต่ละเขตเลือกตั้งผู้สมัครที่คาดหวังว่าจะได้ทุ่มกันเขตละ 20-30-50 ล้านบาท แต่ กกต.กลับไม่มีข้อมูล ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะไปสืบเสาะมาได้เลย ทั้งๆที่มีฝ่ายสืบสวน ฝ่ายสอบสวนอยู่พร้อมสรรพ เสร็จการเลือกตั้งจึงมีเรื่องร้องเรียนการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากมาย ผู้ร้องต้องหาหลักฐานไปส่งให้ กกต.เอง แต่จะด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบ ก่อนการเลือกตั้ง กกต.ไม่มีปัญญาสอยผู้สมัครรายใดได้เลย แม้แต่รายเดียว แถมเสร็จการเลือกตั้ง กกต.กลับรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้ง ที่มีคะแนนอันดับ 1 และมีเรื่องมีราวร้องเรียนอยู่ เข้าไปเดินเฉิดฉายอยู่ในสภา นั่งชูคอสะล่อนเกือบครึ่งสภา ไม่มีใบแดง ใบเหลือง หรือใบส้ม ใบดำ เลยแม้แต่ใบเดียว แถมยังออกมานั่งชูคอแถลงข่าวคอเป็นเอ็น “ผลการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม” เป็นการแถลงรับรองผลการเลือกตั้ง ท่ามกลางข้อร้องเรียน และความสงสัยของชาวบ้าน

ก่อนหน้านี้เมื่อสักสองเดือนก่อน มีข้อมูลหลุดออกมาจาก กกต.ว่า เตรียมสอย สส.71 เขต จากทั้งหมด 400 เขต จากพรรคการเมืองหลักเกือบทุกพรรค ทั้งเพื่อไทย ก้าวไกล ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ มีระบุชัดว่ามีจังหวัดไหน เขตไหน แต่แล้วข่าวนี้ก็หายไปตามกระแสลมหวล ไม่มีข่าวไม่มีคราวความคืบหน้าอะไรออกมาอีกเลยจนถึงวันนี้ 6 เดือนเต็มที่ กกต.ปล่อยให้ผู้ถูกร้องเรียน และส่อว่าจะมีมูล เข้าไปนั่งอยู่ในสภาอันทรงเกียรติ์ กินเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ค่าเดินทางจากภาษีประชาชน เดือนละ 2-3 แสนบาท แถมบางคนไม่ได้เป็น สส.ที่มีส่วนร่วมอยู่ในการทำความผิดต่อกฎหมายเลือกตั้ง กลับได้รับการแต่งตั้งให้มีตำแหน่งทางการเมือง เข้าไปเบ่งกล้ามอยู่ในทำเนียบบ้าง ในกระทรวงต่างๆบ้าง ลูกน้องเดินตามหน้าตามหลังเบ่งอำนาจบารมีกันยิ่งกว่า “แมงปอ”

            อีกทั้งยังมี ส.ส.สอบตก ที่ทำผิดกฏหมายเลือกตั้งและมีเรื่องร้องเรียนมายัง กกต.มากมายหลายจังหวัด แต่ก็ยังไม่มีผลการพิจารณาประกาศออกมา ถึงแม้ว่า ผู้สมัคร ส.ส.เหล่านี้จะไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่เมื่อมีการร้องเรียน กกต.เองก็ไม่ควรเพิกเฉย และควรเร่งพิจารณาดำเนินการเช่นเดียวกับ ส.ส.ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองให้เห็นถึงการทำงานอย่างจริงจริงของ กกต.ที่ทำงานไม่เห็นแก่หน้าใครยึดหลักกฏหมายเป็นสำคัญและคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนและประเทศชาติ

             หรือว่า กกต.ขี้ขลาดจากประสบการณ์ที่เลินเล่อ เสนอให้ใบส้ม “สุรพล เกียรติ์ไชยากร”ผู้สมัคร สส.เขต 8 เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และศาลพิพากษาให้ กกต.ต้องชดใช้เงิน 62 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทย หรือการปล่อยข่าวออกมาว่าจะสอย 71 เขตเลือกตั้ง และทอดเวลาออกไปสองเดือน เป็นการเคาะกะลา แม้จะยังมีเวลาอยู่ตามกรอบของกฎหมายสอยได้ใน 1 ปี แต่ไม่ควรลืมว่า “ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความอยุติธรรม” และประชาชนเป็นผู้เสียโอกาส กกต.ควรจะเร่งมืออย่างรอบคอบ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ใช่ทอดเวลาออกไปจนชาวบ้านชาวช่องรู้สึกได้ถึงความอ่อนด้อย และไร้ประสิทธิภาพ

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!