อยุธยา-นสพ.อินทรีสยาม มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ”โรตีสายไหม บังอิมรอน”

ภาพ-ข่าว:กิตติศักดิ์ เพไร

             วันนี้ (11 ธันวาคม 2566) ที่ร้าน”โรตีสายไหม บังอิมรอน” ร้านผลิตและจำหน่ายโรตีสายไหมชื่อดังที่สุดใน อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอริย์ธัช พรอัศวโยธิน บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์อินทรีสยาม  พร้อมด้วย นางสาวอรกัญญา หลิมสัมพันธ์ บรรณาธิการบริหาร ได้นำโล่ประกาศเกียรติคุณพร้อมด้วย งาพันมังกร วัตถุมงคลที่ระลึก ครบรอบ 10 ปี หนังสือพิมพ์อินทรีสยาม มอบให้แด่ นายสรายุทธ สิงห์คะ เจ้าของผลิตภัณฑ์”โรตีสายไหม บังอิมรอน” ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ และเป็นสมาชิกเครือข่ายนักข่าวภาคสนามอินทรีสยามออนไลน์  โดยนายสรายุทธ สิงห์คะ ได้เป็นผู้บำเพ็ญตนอยู่ในศีลธรรมอันดี และเป็นผู้ที่เสียสละทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมมาเป็นเวลานาน อีกทั้งนายสรายุทธ สิงห์คะ ยังได้เข้าร่วมโครงการ”สื่ออาสาสัญจร เพื่อน้องๆถิ่นทุรกันดาร”ในโอกาสครบรอบ 10 ปี หนังสือพิมพ์อินทรีสยาม ทางคณะผู้บริหาร จึงได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป
            สำหรับประวัติความเป็นมา”ร้านโรตีสายไหม บังอิมรอน”ในอดีต นายสรายุทธ สิงห์คะ เล่าว่า ตนเคยเป็นลูกจ้างตอนสมัยเรียนอยู่มัธยมที่โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ก่อนที่จะเลิกทำหันมาเรียนหนังสือให้เต็มที่ พอเริ่มศักษาที่สถาบันราชภัฎพระนครศรีอยุธยาปีสุดท้าย ก็ได้ริเริ่มคิดที่จะผลิตและขายโรตีสายไหม ด้วยความร่วมมือกันสามพี่น้อง คือมีพี่สาว ตนเองและน้องสาว ด้วยเงินลงทุนครั้งแรกจากเงินกู้ยืมเพื่อการศักษาของตัวเอง นำมาซื้ออุปกรณ์จำนวน 12,000 บาท และเงินจากแม่อีก 8,000 บาท ในการซื้อวัตถุดิบและได้เริ่มเปิดกิจการครั้งแรก ในวันที่ 22 มิถุนายน 2542 ใช้ชื่อร้านครั้งแรกว่า “ร้านแม่มาลีโรตีสายไหม” ตรงถนนอู่ทอง หลังราชภัฎพระนครศรีอยุธย าเยื้องโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
           เมื่อเปิดกิจการได้ประมาณ 2 ปี พี่สาว น้องสาวได้แยกไปเปิดกิจการในครอบครัวของตัวเองจึงเหลือตนเพียงลำพังที่บริหารพร้อมกับแม่ จนดำเนินกิจการมาเรื่อย ๆ แต่กิจการไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากทำเลไม่ดี บวกกับคุณภาพผลิตภัณฑ์ไม่เป็นที่ถูกใจของลูกค้า ทำให้เกิดอุปสรรคเรื่องเงินไม่พอใช้ จึงเกิดความเครียดอย่างมาก จึงหยุดกิจการขายโรตีสายไหมไปประมาณ 3 เดือน แล้วมาหาทำเลที่ขายไหม่ คือที่ขายปัจจุบันตรงถนนวัดใหญ่ชัยมงคล-วัดพนัญเชิง โดยเปิดกิจการไหม่อีกครั้งเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2548 เช่าห้อง 1 คูหา ในราคาค่าเช่า 5,000 บาทต่อเดือน โดยตั้งชื่อร้านว่า บังอิมรอนโรตีสายไหม นับจากนั้นเป็นต้นมา
             จากการผลิตและขายโรตีสายไหมแต่เดิมไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ต้องกลับมาทบทวนข้อบกพร่องในขั้นตอนการผลิตใหม่ เริ่มจากปรับปรุงเรื่องการผลิตแผ่นแป้งก่อน จากของเดิมแผ่นแป้งจะบางและแข็งกระด้าง ก็เริ่มผลิตแผ่นแป้งให้หนาขึ้น ขั้นตอนนี้ก็จะไปดูการแต้มแป้งของแต่ละร้านแล้วน้ำมาประยุกต์ใช้จนทำให้เป็นเอกลักษณ์ของตนเองขึ้นมา ส่วนการผลิตเส้นสายไหม เดิมเส้นสายไหมจะออกไปทางหวานมาก ก็ให้เน้นในการใส่เชื้อ(น้ำมันผสมแป้งกวนให้สุก) ให้ออกมันหวานและเน้นเส้นให้นุ่มฝูสลวยขึ้น โรตีสายไหมทั้งหมดที่ปรับปรุงนี้ ก็ได้มาจากลูกค้าที่ออกบูธต่าง ๆและที่ร้านจะคอยสอบถามลูกอย่างต่อเนื่อง ส่วนการจำหน่ายจะเน้นเรื่องการออกบูธต่าง ๆ ไปทั่วประเทศส่วนมากเป็นบูธของ otop และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ททท.จังหวัด เพื่อเน้นการโปรโมทสินค้าโรตีสายไหม เนื่องจากลูกค้าจะติดยี่ห้อโรตีสายไหมหน้าโรงพยาบาลมาก จึงต้องคอยบอกสถานที่ผลิตและขายโรตีสายไหมตลอด จนตนได้มาเป็นวิทยากรให้กับนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ ที่มาดูงานอยู่เสมอ และทางร้านได้เปิดจำหน่ายโรตีสายไหมตลอด 24 ชั่วโมง ให้พนักงานดึงเส้นสายไหมทำงานเป็นกะ และมีพนักงานผลิตแผ่นแป้งตอนกลางคืนด้วย วิธีนี้ช่วยให้ดึงลูกค้าได้มากที่เดียว
             ปัจจุบันเปิดกิจการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2548 ทางร้านได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เรี่อย ๆ มา จากเคยขายครั้งแรกวันละ 400-500 บาท ก็ได้มีการทำยอดจำหน่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนี่อง มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เสมอ จนมีสูตรผลิตภัณฑ์เป็นของตนเอง ตอนนี้ก็ได้เช่าคูหาเพิ่มขึ้นอีก 3 คูหาจึงทำให้ร้านดูขยายใหญ่ขึ้น ทำให้ร้านดูน่าเชื่อถือขึ้นมียอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ต่อไปก็ได้ขยายร้านสาขา 2 โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาเพื่อขยายสาขาเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อคอยต้อนรับลูกค้าที่มาซื้อที่ร้านทางวัดใหญ่ชัยมงคล-วัดพนัญเชิงไม่ถูก
            สำหรับแผนงานในอนาคตตนคิดจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ โรตีสายไหมให้อยู่ได้นานขึ้นไม่ขึ้นราเร็วเกินไป คือ เริ่มมีขั้นตอนออกแบบเครื่องจักรผลิตแผ่นแป้งไปจนถึงลงสายพานการบรรจุในถุงซิลสูญญากาศ และปัจจุบันตนกำลังพิจารณาซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงงานผลิต เข้าระบบ อย. เน้นส่งต่างประเทศอีกช่องทางหนึ่งด้วย “นายสรายุทธ” กล่าว