ปราจีนบุรี-ผลักดันโขลงช้างป่าหลังวิ่งชนรถจิตอาสาได้รับบาดเจ็บ-รถ จยย.ถูกเยียบเละ

ปราจีนบุรี-ผลักดันโขลงช้างป่าหลังวิ่งชนรถจิตอาสาได้รับบาดเจ็บ-รถ จยย.ถูกเยียบเละ

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

              เมื่อเวลา 16.15 น. วันนี้ 21 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้าจากกรณีโขลงช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จฉะเชิงเทรา (เขตป่าลุ่มต่ำผืนสุดท้ายของไทย ในพื้นที่ป่ารอย5จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี) มากกว่า 10ตัว(บวก) ข้ามฝั่งมาหากิน อยู่ในไร่อ้อยของชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไนจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับ อบต.วังท่าช้าง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านวังมะกรูด ผช.และอาสาฯวังกวาง ต.วังท่าช้าง ผลักดันช้างป่าบริเวณเกาะป่าสะเดา บ้านโคกไม้แดง ม.4 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี มุ่งหน้าข้ามคลองน้ำบ้านโนนสมบูรณ์หมู่ 14 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
               จากนั้นช้างป่าเคลื่อนตัวหากินในป่าอ้อยบริเวณป่าเขามะก่อง ม.14 ต.วังท่าช้าง มุ่งหน้าห้วยกระโดดหมู่ 14 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ผลักดันออกจากป่าบ้านวังใหม่-วังมลหมู่ 17 ต.วังท่าช้าง เขตรอยต่อจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทรา มุ่งหน้าบ้านดงเย็น ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นในลึกที่เป็นที่อยู่และหากินของช้างป่า ในส่วนกรณีที่จิตอาสาฯที่ออกกำลังช้างป่า ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา และได้มีช้างป่าตัวใหญ่เกิดอาการเครียด วิ่งชนรถไถ จิตอาสาตกรถไถ ได้รับบาดเจ็บหางคิ้วแตกแขนหัก และช้างป่ายังเตะรถจักรยานยนต์ ของอาสาสมัครเฝ้าระวังผลักดันช้างป่า ในฝั่งตรงกันข้าม พังเสียหายจำนวน 1 คัน ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียดไปแล้วก่อนหน้านี้ นั้น
              นายธนเกียรติ ไชยราษฎร์ อดีต สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้าง (ส.อบต.) หมู่ที่ 14 ต.วังท่าช้าง และ กรรมการเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่า และ จิตอาสาเฝ้าระวังช่างป่าเปิดเผยว่า เมื่อคืนวานนี้ (20ธ.ค.)ที่เขามะก่อง ม.4 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี ตนเองได้ผลักดันช้างป่า 2 แม่ – ลูกออกจากไร่อ้อย โดยใช้รถไถ แต่ในขณะที่กำลังทำการผลักดัน ไม่เห็นช้างป่า อีกตัวหนึ่งซึ่งดุร้ายมากๆ มีอาการโกรธ-เครียด หูกางหางชี้งวงม้วนงอวิ่งดิ่งรี่เข้าไล่กระทืบตนในระยะเพียง 10 เมตร จึงรีบหลบออกข้างทัน ช้างป่าได้ใช้เท้ากระทืบรถมอเตอร์ไซด์ที่ตนขับขี่จนพังเสียหายหมด หลังจากนั้น ช้างได้พุ่งเข้าป่าอ้อยไป และยังได้ไปพบจิตอาสาฯผลักดันช้างอีกทีมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ช้างได้พุ่งชนรถไถจนคนตกรถไถบาดเจ็บ วอนรัฐบาลช่วยแก้ไขด่วน ก่อนมีการสุญเสียชีวิตและทรัพย์สินไปมากกว่านี้
               ทั้งนี้มีช้างป่าประมาณ 10 ตัว เข้ามาหากินในป่าไร่อ้อยของตน โดยปกติโขลงช้างป่าจะแตกฝูงใหญ่ออกมาหากินในป่าอ้อยแทบทุกวัน เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) จึงชวนน้องชายกับลูกชายและเพื่อนออกมาผลักดันโขลงช้างดังกล่าวข้างต้น ตนเห็นช้างหมุนตัวใช้เท้ากระทืบรถจักรยานของตนเองฝุ่นตลบ ขณะที่ตนเองวิ่งมาหลบอยู่ข้างต้นยูคาลิปตัสห่างจากตัวรถจักรยานยนต์ 10 เมตร จากนั้นช้างได้เข้าป่าอ้อยหนีไป ขณะนั้นตนรู้สึกตกใจ และหวาดกลัวมาก เพราะ ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ประสบเหตุกับตัวเองและรอดตายอย่างหวุดหวิด ต่อมาตนไปดูรถไถของน้องชายที่ถูกช้างวิ่งชนได้รับความเสียหายในฝั่งตรงข้ามเป็นไร่อ้อยที่ปลูกไว้ 60 ไร่ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด และ ที่บ้านของนายพนมชน ไชยราช ที่ถูกช้างป่าวิ่งออกมาพุ่งชนรถไถที่จอดผลักดันอยู่ข้างป่าอ้อย มีแม่และญาติที่รู้ข่าวมาผูกแขนเรียกขวัญ และสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
                นายพนมชน เล่าให้ฟังว่า ได้พากันออกไปผลักดันช้างออกจากป่าอ้อย ระหว่างนั้นไม่เห็นตัวช้างป่าตัวใหญ่มีงาโผล่ออกมาจากป่าอ้อย พุ่งชนรถไถที่จอดอยู่ จนตนเองตกจากหลังคารถไถได้รับบาดเจ็บ และช้างยังพุ่งชนรถไถอีกหลายครั้งก่อนที่จะเข้าป่าอ้อยหายไป ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วหมออนุญาตกลับมาบ้านได้แล้ว แต่ยังรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับสูง เข้ามาจัดการปัญหาช้างป่าที่เข้ามากัดกินพืชผลการเกษตรของชาวบ้านให้เป็นระบบมากกว่านี้

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!