ประจวบคีรีขันธ์-ไม้จันทน์พ่นพิษ..!ปจ.จ่อสั่งสอบเจ้าหน้าที่ปกครองตกเป็นข่าวเอี่ยวเจรจาเงิน 5 หมื่น ปิดคดีจับไม้เถื่อนเขาจ้าว

ประจวบคีรีขันธ์-ไม้จันทน์พ่นพิษ..!ปจ.จ่อสั่งสอบเจ้าหน้าที่ปกครองตกเป็นข่าวเอี่ยวเจรจาเงิน 5 หมื่น ปิดคดีจับไม้เถื่อนเขาจ้าว

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

                     วันที่ 18 มกราคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราณบุรี ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ตำรวจ ตชด.145 ทหาร ฉก.จงอางศึก และเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.จังหวัด ร่วมกันจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้หวงห้ามมาแปรรูปในพื้นที่หมู่ 5 บ้านกระทุ่น ตำบลเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตปลอดภัยทางราชการทหารค่ายธนะรัชต์ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 67 จากนั้นถูกระบุจากแหล่งข่าวว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 2 ตำแหน่ง โทรศัพท์มาเจรจาขอเคลียร์คดีจับไม้เถื่อนด้วยวงเงิน จำนวน 50,000 บาท ตามที่ผู้สื่อข่าวได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
                   จากกรณีนี้ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสัมภาษณ์ นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งดูแลเกี่ยวกับงานด้านการปกครองแต่ละท้องที่โดยตรง เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบจากกระแสข่าวว่า มีการกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของฝ่ายปกครองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการต่อรองเจรจาเกี่ยวกับคดีการจับมอดไม้เถื่อนในพื้นที่เขตรับผิดชอบของ สภ.ปราณบุรี ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งเรื่องนี้เมื่อตกเป็นกระแสข่าวเกี่ยวข้องกับฝ่ายปกครอง ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์เกิดความเสียหาย ก็จะต้องมีการให้ทางอำเภอปราณบุรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับพื้นที่ดำเนินการตั้งกรรมการสอบและลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมรายงานให้ปกครองจังหวัดทราบ ว่ามีเจ้าหน้าที่ของฝ่ายปกครองคนใด ตำแหน่งใดบ้าง และเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่หรือไม่ หรือ เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองพื้นที่อื่นๆ หรือถูกแอบอ้าง เพื่อให้เกิดความแน่ชัดและข้อเท็จจริง หากพบมีการกระทำความผิดจริงก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายหรือลงโทษตามวินัย
                 ส่วนประเด็นที่สื่อถามว่า กระบวนการตัดไม้ และ การนำไม้มาแปรรูปบนทางสาธารณะในพื้นที่นั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องที่ไม่รู้ไม่เห็นถือเป็นความบกพร่อง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นั้น นายปรีดา ตอบว่า คนที่จะกระทำความผิด หรือการลักลอบตัดไม้มันต้องแอบทำอยู่แล้ว ซึ่งบางครั้งผู้นำท้องที่อาจดูแลไม่ทั่วถึง หรือตรงกับจังหวะที่ผู้นำไม่อยู่ในพื้นที่ก็เป็นได้ ซึ่งมันจะต้องดูว่าวันเวลานั้น ผู้นำท้องที่อยู่ในพื้นที่หรือไม่ ได้ลงไปดูพื้นที่เกิดเหตุหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่เคยเห็นรายละเอียด เพียงแต่ทราบข่าวว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่ปราณบุรีเท่านั้น

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!