สมุทรปราการ-ทหารยศเรืออากาศเอก ชักปืนยิงใส่วงเหล้า เจ็บ 1 ตำรวจปิดล้อมกล่อมอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง จึงยอมมอบตัว

ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์

         เกิดเหตุระทึกกลางชุมชน ทหารชักปืนยิงใส่วงเหล้า จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ก่อนจะเดินกลับเข้าไปเก็บตัวอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมพื้นที่ เกลี้ยกล่อมอยู่ นานกว่า 2 ชั่วโมง จึงยอมออกมามอบตัว พร้อมแต่งตัวเต็มยศ ก่อนจะมอบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุให้กับ ผกก.สภ.บางเสาธง เจ้าตัวอ้างไม่ได้ตั้งใจยิงแต่ปืนลั่นเพราะถูกอีกฝั่งแย่งปืน สาเหตุเครียดเพราะวัยรุ่นตั้งวงเสียงดังประจำ
         เมื่อเวลา 21.10 น. วันที่ 16 มีนาคม 2567 พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ ได้นำกำลังทั้งสายตรวจในเครื่องแบบ และฝ่ายสืบสวนนอกเครื่องแบบ กว่า 30 นาย พร้อมกับอาวุธครบมือและโร่กำบังพร้อมเสื้อเกาะ เข้าทำการปิดล้อมพื้นที่กลางชุมชนภายในซอย ฝ.5 ชุมชนการเคหะเมืองใหม่ หมู่ 16 บางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ภายหลังจากได้รับแจ้งมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บ และถูกชาวบ้านช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 5 ทราบชื่อ นายศุภชัย ยั่งยืน อายุ 26 ปี ถูกอาวุธปืนยิงกระสุนถากสีข้าง
           ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นข้าราชการทหาร ยศเรืออากาศเอก สังกัดทหารอากาศที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องอาวุธปืน อายุ 60 ปี หลังก่อเหตุได้เข้าไปในบ้านพักกึ่งห้องเช่า สูง 3 ชั้น ซึ่งอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ พร้อมกับปืนที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เจรจาอยู่นานแต่ไม่เป็นผล ผู้ก่อเหตุยังคงเก็บตัวอยู่ภายในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดต่อญาติคนสนิทช่วยเข้าเจรจาอีกครั้ง กระทั่งผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง หลังญาติคนสนิทเข้าเกลี้ยกล่อมไม่นาน นายทหารรายนี้ ได้แต่งกายเครื่องแบบชุดทหารเต็มยศ เดินออกมาจากบ้านพักเพื่อเข้ามอบตัวพร้อมกระเป๋าสะพายข้าง ซึ่งภายในมีอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ มอบให้กับ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง ก่อนจะรีบขึ้นรถสายตรวจไป สภ.บางเสาธง ทันที หลังเกิดเหตุได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนจำนวน 1 ปลอก ตกอยู่กลางถนน ที่บริเวณหน้าร้านค้า ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านพักของนายทหารรายนี้ มีโต๊ะเก้าอี้ถูกวางกระจัดกระจาย และที่เคาท์เตอร์ของร้านอาหารตามสั่งพบรูกระสุนฝังคาอยู่ด้านใน 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
           จากการสอบถาม นายณัฐพล ภูทองใบ อายุ 21 ปี เพื่อนของผู้บาดเจ็บ บอกว่า ตนกับเพื่อนๆนั่งย่างเนื้อกันอยู่ที่ร้านตรงข้ามบ้านของผู้ก่อเหตุ จู่ๆผู้ก่อเหตุเดินออกมาถามบอกตนว่าเก๋าเหรอ แล้วก็ชักปืนออกมาชี้ที่พวกตนแล้วยื้อแย่งกับเพื่อนตนอีกคน ก่อนที่ปืนจะลั่นมา 1 นัด ถูกนายศุภชัย 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว หลังเกิดเหตุเมียของผู้ก่อเหตุก็มานำตัวเข้าบ้านไป ส่วนผู้บาดเจ็บพวกตนก็ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล

           ส่วน นายต้อม อายุ 32 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บอีกคน เล่าว่า ตนกับเพื่อนเปิดเพลงนั่งดื่มสุรากันอยู่กับเพื่อน 6-7 คน ที่ฝั่งตรงข้ามของบ้านผู้ก่อเกิดเหตุ แล้วจู่ๆผู้ก่อเหตุก็ออกจากบ้านมายิงพวกตนเลย แล้วบอกว่าหลายรอบแล้ว กระสุนเฉี่ยวหัวไปเลย ตนก็งง เพราะปกติก็เคยเจอกับผู้ก่อเหตุอยู่บ่อยๆและยังเคยเลี้ยงเหล้าพวกตนด้วย ยอมรับว่าพวกตนกินเหล้ากันตรงนี้บ่อยครั้งทุกอาทิตย์ ส่วนที่เกิดเหตุครั้งนี้ก็น่าจะมาจากที่พวกตนกินเหล้าเสียงดัง เพราะวันนี้ผู้ก่อเหตุได้ออกมาเตือนพวกตน 2 รอบแล้ว ส่วนที่ผ่านมาเขาก็แค่ออกมาบ่นๆตามปกติ
             ด้านภรรยาของผู้ก่อเหตุ บอกว่า กลุ่มวัยรุ่นเปิดเพลงส่งเสียงดังมาก เราได้แจ้งตำรวจไป 2 ครั้งแล้ว แจ้งครั้งแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มาแจ้งครั้งที่สองเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงมาตักเตือน หลังจากตำรวจไปก็เปิดเพลงส่งเสียงดังอีกเหมือนเดิม หลังจากนั้นสามีตนก็เดินออกจากบ้านโดยสวมชุดธรรมดากางเกงขาสั้นสะพายกระเป๋าติดมาด้วยโดยไม่ได้ถือออกมาโชว์แต่อย่างใด จากนั้นก็เกิดการทะเลาะกันเสียงดัง ทางฝั่งคนเจ็บก็ไม่พอใจเรื่องที่สามีตนออกมาตักเตือน แล้วก็มีการยื้อแย่งฉุดกระชากกัน หลังจากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด จากนั้นสามีก็เดินเข้าห้องนอน เปิดธรรมะฟังเตรียมตัวจะนอนเพราะคิดว่ากระสุนไม่ได้โดนใคร สามีตนนั้นมีโรคประจำตัวภาวะเครียดรักษาตัวมานานและกินยาอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนตัวสามีไม่ใช่คนมีอารมณ์รุนแรง
             ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกอีกว่า ในซอยบ้านมีสองหลังที่มาตั้งวงสุราส่งเสียงดังอยู่เป็นประจำแต่กลุ่มนี้จะเสียงดังมาก ไม่ใช่มีแค่บ้านตนแต่ทั้งซอยเค้าก็เดือดร้อนรำคาญเหมือนกัน กินทุกวันเสียงดังทุกวัน วันนี้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบถึงสองครั้ง สามีตนคงหมดความอดทนจริงๆ
             เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานให้นายทหารรัฐธรรมนูญร่วมตรวจสอบทางคดีความ และดำเนินการลงโทษตามระเบียบของทางราชการ ทั้งทางวินัย และตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป