สมุทรปราการ-“พระครูปลัดอดุลย์ ทินฺนธมฺโม”ร่วม “ประชาสัมพันธ์รณรงค์ป้องกันและต่อต้านยาเสพติด”
ภาพ-ข่าว:ศมณชนก บวรภักดิโชติ
บ.ก.อริย์ธัช พรอัศวโยธิน
ปัจจุบันการแพร่ระบาดของยาเสพติดมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลง เนื่องจากปัจจัยต่างๆทั้งปัญหาครอบครัวและปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้บางคนขาดความยั้งคิดขาดสติในการแก้ไขปัญหา นำมาซึ่งการเข้าสู่วงจรการทั้งผู้ค้าผู้เสพ เป็นผลทำให้สังคมและประเทศชาติเสื่อมถอย การก่ออาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น
การรณรงค์เพื่อป้องกันและต่อสู้กับยาเสพติดเป็นความคิดริเริ่มที่สำคัญในการส่งเสริมสังคมทให้มีสุขภาพดีและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทุกคนจะต้องช่วยกันในการหาทางป้องกันให้ผู้คนรอบตัวเราได้ตระหนักรู้ถึงพิษภัยของยาเสพติด โดยเฉพาะข้าราชการที่จะเป็นแกนนำสำคัญและผู้นำชุมชนทุกแห่ง ที่มีหน้าที่ให้ความรู้แก่เยาวชนและประชาชน เกี่ยวกับผลร้ายของการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีต่อบุคคล ครอบครัว และชุมชน โดยทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและต่อต้านยาเสพติดได้หลากหลายช่องทาง
อาตมา พระครูปลัดอดุลย์ ทินฺนธมฺโม เจ้าอาวาสวัดมงคลโคธาวาส ตำบลคลองด่าย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ “หนังสือพิมพ์อินทรีสยาม” ใน “การประชาสัมพันธ์รณรงค์ป้องกันและต่อต้านยาเสพติด” เพื่อร่วมกันปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนและทุกคนตระหนักรู้ถึงพิษภัยยาเสพติด เลิกเสพ เลิกค้า หันมาประกอบอาชีพสุจริตใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยและอยู่ให้ห่างไกลยาเสพติดและไม่กระทำผิดกฎหมาย
ประวัติวัดมงคลโคธาวาส หรือ วัดหลวงพ่อปาน โดยสังเขป
สำหรับวัดมงคลโคธาวาส หรือ วัดหลวงพ่อปาน เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ อยู่ใกล้กับตลาดคลองด่าน ที่ดินที่ตั้งวัด มีเนื้อที่ 45 ไร่ 3 งาน 75 ตารางวา มีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 45 ไร่ 2 งาน 38 ตารางวา เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2300 เดิมมีชื่อว่า วัดบางเหี้ยนอก ตามชื่อตำบลบางเหี้ย เพราะตำบลนี้มีเหี้ยอยู่จำนวนมาก ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีนั้น ไทยกับพม่าได้ทำศึกสงครามรบพุ่งกันเป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้ราษฎรกลุ่มหนึ่งซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี เกิดความเบื่อหน่ายในการรบทัพจับศึกได้อพยพหนีภัยสงคราม พาครอบครัวมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ใกล้กับแม่น้ำบางเหี้ย มีชื่อเรียกว่า โคกเศรษฐี (ปัจจุบันเรียกว่า บ้านสามเรือน) ประชาชนได้ช่วยกันสร้างวัด
ต่อมาได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในครั้งพระองค์เสด็จมาประทับแรมอยู่ที่ประตูกั้นน้ำแม่น้ำบางเหี้ย (ประตูระบายน้ำชลหารพิจิตรในปัจจุบัน) เป็นเวลา 3 คืน เมื่อต้นปี พ.ศ. 2452 และได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่ปาน เป็นที่สำราญพระราชหฤทัย พระองค์ได้พระราชทานชื่อตำบลบางเหี้ยเป็นตำบลคลองด่านเพื่อเป็นศิริมงคลและพระราชทานสมณศักดิ์ถวายหลวงปู่ปานเป็น พระครูพิพัฒนิโรธกิจ (ปาน) ต่อมาวัดได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “วัดมงคลโคธาวาส” แต่ประชาชนทั่วไปยังติดเรียกขานกันว่า “วัดหลวงพ่อปาน”[1] วัดได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2512 ส่วนรูปหล่อของหลวงพ่อปาน ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กุฏิของท่าน รูปหล่อนี้ทำขึ้นก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ในวันขึ้น 5–7 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี จะมีการอัญเชิญรูปหล่อของหลวงพ่อปานไปจัดงานนมัสการและปิดทองหลวงพ่อปาน ณ ที่ว่าการอำเภอบางบ่อ