ลพบุรี- ประชาชน 9 หมู่บ้านเดือดร้อนร้องสื่อฯบริษัทรับเหมาปิดเส้นทางผ่าน
ภาพ-ข่าว:กฤษณ์ สนใจ
ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้านเดือดร้อนจากผู้รับเหมาปิดทางผ่านเดิม เปิดทางใหม่เพื่อทดลองใช้ ในเส้นทางมืดสลัว เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง วอนขอเปิดใช้เส้นทางเดิมไปก่อนที่จะดำเนินการเส้นทางใหม่แล้วเสร็จ
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมานายไพโรจน์ นุชประไพ นายก อบต.ตำบลโคกกระเทียม คณะผู้บริหาร สมาชิกฯ ฝ่ายปกครองหมู่ที่ 1- 9 และชาวบ้านกว่า 30 คนได้เดินทางไปเพื่อหารือกับบริษัทฯ ผู้รับเหมา สร้างสะพาน ทางยกระดับ ในพื้นที่ ต.โคกกระเทียม หลังจากชาวบ้านผู้ใช้รถ ใช้ถนนเดือดร้อน และไม่ปลอดภัยจากการทดลองใช้สะพานข้ามทางรถไฟ เนื่องจากความสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งได้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้ง จนมีผู้บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งผลของการเข้าหารือไม่เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ออกมาพบตามที่ได้นัดหมายกันไว้ ซึ่งเกรงว่าหัวหน้าแผนกบริษัทฯ รับผู้เหมาไม่มีความจริงใจ ไม่ให้เกียรติคนในพื้นที่ และไม่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน
เวลา 18.30 น.วันที่ 29 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดรับแจ้งว่าถูกปิดเส้นทางเดิมซึ่งเป็นเส้นทางหลักสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวน 9 หมู่บ้าน ต.โคกกระเทียม และเป็นเส้นทางเลี่ยงเมือง ออกไปยังจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ชัยนาท สุพรรณบุรีได้ โดยมีอุปกรณ์ แผงกั้น ปิดกั้นเส้นทางเดิมไว้ ระบุ “ประกาศแจ้งยกเลิกจุดตัดทางข้ามรถไฟแห่งนี้ รถทุกประเภทให้ไปใช้สะพานกลับรถ (Uturn) ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป”
ซึ่งชาวบ้านทุกคน ผู้ใช้รถใช้ถนนก็เห็นดีด้วย เป็นความทันสมัยและปลอดภัย แต่สะพานยกระดับที่เปิดให้ใช้ใหม่นี้ แสงสว่างยังไม่เพียงพอ มีเพียงหลอดพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งไว้ระหว่างไฟฟ้าหลักที่ยังไม่ได้เปิดไฟส่องสว่าง เพียงเสาเว้นเสาเท่านั้น แสงสว่างจากหลอดพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ถึงเที่ยงคืนก็ริบหรี่ อีกทั้งเส้นทางใหม่เป็นเส้นทางที่ประชาชนยังไม่เคยชิน ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ซึ่งสิ่งที่พวกตน และชาวบ้านร้องขอกับบริษัทฯ ผู้รับเหมานั้นคือ ในระหว่างที่สะพานยกระดับยังแล้วเสร็จขอให้เส้นทางตัดผ่านเดิมไปก่อน หรือให้ใช้เส้นทางใหม่ก็ขอให้มีไฟส่องสว่างเพียงพอเท่านั้นที่ร้องขอ
ทั้งนี้นายไพโรจน์ นุชประไพ นายก อบต. ในนามตัวแทนของประชาชนชาว ต.โคกกระเทียมได้กล่าววิงวอนบริษัทฯ ผ่านสื่อ ขอความเห็นใจในความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรจำนวนมากในแต่ละวัน และขอให้เจ้าหน้าที่บริษัทฯ ได้ลงมาพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนคนในพื้นที่บ้าง ชี้แจงเหตุผล ความจำเป็นในส่วนของบริษัทฯ อย่าปล่อยความเดือดร้อนนี้กลับกลายเป็นความเกลียดชังต่อกันเลย ซึ่งถ้าหากยังเพิกเฉยต่อความเป็นความตายของพี่น้องประชาชน ประชาชนอาจต้องถึงการรวมตัวปิดถนน