อยุธยา-ทำบุญและทอดผ้าปาสามัคคีระลึกถึงวันครบรอบ 125 ปี อาจารย์หอมหวล ราชาลิเกลูกบท

ภาพ-ข่าว นราเอก ตันศิริ / นพดล บำเพ็ญสัตย์

ศิษยานุศิษย์อาจารย์ หอมหวล และชมรมอาจารย์ หอมหวล ทำบุญ และทอดผ้าปาสามัคคีระลึกถึงวันครบรอบ 125 ปี อาจารย์หอมหวล ราชาลิเกลูกบท

            เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 เมษายน 2567 ที่อาคารปฏิบัติธรรม วัดท่าการ้อง ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พระพิพัฒนศาสนกิจวิธาน เจ้าคณะอำเภอบ้านแพรก เจ้าอาวาสวัดท่าการ้อง ไปเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ อาจารย์บุญเลิศ นาจพินิจ อาจารย์วิโรน์ วีระวัฒนานนท์ บริษัท โรสมีเดีย โดยคุณพีรพล – คุณวัฒนี มนต์พิชิต ร่วมเป็นประธานฝ่ายฆารวาส ในพิธีทำบุญและทอดผ้าป่าสามัคคีระลึกถึงวันครบรอบ 125 ปี อาจารย์หอมหวล โดยมีศิษยานุศิษย์อาจารย์หอมหวล และชมรมอาจารย์หอมหวล เข้าร่วมพิธี
            พิพัฒนศาสนกิจวิธาน เจ้าคณะอำเภอบ้านแพรก เจ้าอาวาสวัดท่าการ้อง ในฐานะที่เป็นปนะธานกองทุนช่วยเหลือศิลปินนาฏดนตรี หรือลิเก กล่าวว่า นายหอมหวล นาคศิริ หรือ พระอธิการหอมหวล คนฺธสิริ ราชาลิเกลูกบท เป็นชาวบ้านห้วยทราย ตำบลสองห้อง อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่3 เมษายน พ.ศ. 2442 มารดาเป็นแม่เพลง ทำให้ มีความรักในการละเล่น ร้องรำทำเพลง จนกระทั่งได้ฝึกลิเกที่คณะของนายดอกดิน เสือสง่า ลิเกชื่อดังในยุคนั้น ภายหลังได้เรียน โขน เรียนละครกับครูแกร ได้สักพักจึงลาครูแกรกลับบ้าน และ ได้ตั้งคณะลิเกของตนเอง ชื่อ คณะหอมหวล มีโอกาสได้นำคณะแสดง หน้าพลับพลาที่ประทับ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พลับพลาพระที่นั่ง วัดอุโลม อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับเด็กจากที่ต่างๆมาฝึกลิเกมากมาย มีการดัดแปลงบทละครต่างๆมาใช้แสดงลิเก การแต่งกายเสมือนจริง เรื่องหนึ่งก็แสดงไว สามคืนจบ ประจวบกับมีศิษยานุศิษย์มากมาย
             จึงทำให้คณะหอมหวล โด่งดังอย่างรวดเร็ว มีลิเกคณะหอมหวล 9 คณะ เปิดแสดงพร้อมกันตามวิกต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังมีบรรดาลูกศิษย์ของหอมหวลแยกออกไปตั้งคณะลิเก ถึง 35 คณะ มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบันนี้ ในบั้นปลายชีวิตได้เข้าอุปสมบทที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และได้เดินทางไปบูรณะวัดร้าง ชื่อวัดป่าเรไร ที่ ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี นำลิเกไปแสดงเรี่ยไรเงินมาบำรุงเสนาสนะและได้เป็นเจ้าอาวาส พระอธิการรูปแรกของวัด ท่านบวชได้ 9 พรรษา จึงมรณภาพด้วยอาการสงบ ที่โรงพยาบาลนนทบุรี( โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2521 สิริอายุได้ 80 ปี และบำเพ็ญกุศลศพและพระราชทานเพลิงศพในวันที่18 มีนาคม พ.ศ. 2522 ที่วัดเซิงหวาย เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
             หลังจากนั้นยังมีงานระลึกอยู่เสมอ ในคราวครบรอบการมรณภาพ การจัดตั้ง ชมรมอาจารย์หอมหวล และการจัดพิธีไหว้ครู ครอบครู ทุกปี ณ วัดเซิงหวาย ปัจจุบัน จัด ณ วัดป่าเรไร และ ได้มีการสร้างรูปหล่อขนาดเท่าคนจริงของหลวงพ่อหอมหวล ไว้ภายในวิหารที่วัดป่าเรไร ส่วนที่วัดท่าการ้องต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จะได้ทำบุญ และทอดผ้าปาสามัคคีระลึกถึงวันครบรอบ ในวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี