กาญจนบุรี-ผลักดันโครงการคลังจุดขนถ่ายสินค้า ทางรางรถไฟ บ้านวังเย็น
ภาพ-ข่าว:รักษพล พุ่มพฤกษ์
การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมจับมือกลุ่มเครือข่ายร่วมลงทุนค้าไทย- เมียนมา ผลักดันโครงการคลังจุดขนถ่ายสินค้า ทางรางรถไฟ บ้านวังเย็น เมืองกาญจนบุรี
โดยคณะผู้บริหาร บจก.เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง และคณะผู้ลงทุนร่วมค้าประเทศเมียนมา คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ร่วมสำรวจพื้นที่ก่อสร้างสถานีขนสินค้าระบบราง และสถานที่ก่อสร้างท่าเรือบกกาญจนบุรี ในโครงการของบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด คณะร่วมทุนลงดูพื้นที่จริง พร้อมผลักดันโครงการปลายปี 2567 เตรียมพร้อมลงเสาเอกหลังการรถไฟแห่งประเทศ ไทย ส่งเอกสารการอนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้ว และ ที่บริเวณห้องประชุม ภีมวนา Royal Riverkwai Resort and Spa นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ ผู้บริหารบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด ได้เชิญคณะกลุ่มร่วมทุนฝ่ายไทย ประกอบด้วย นายวันชัย พยัคฆ์เกษม นายพัฒชัย วงศ์งาม นายเศรษฐรัชต์ เลือดสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.ติณณ์ ถิรกุลโตมร จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน คุณขจร ศิวรังสรรค์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจวิศกรรมเหล็กรางรถไฟฯ คุณสมยุทธิ์ เรือนงาม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ส่วนคณะร่วมทุนชาวเมียนมา ประกอบด้วย MR. U y Pa, Capt.ye Myint Tun, U wai Phyo Sann, U Hla Kyaing และ A ung Myitta(Matthew) กลุ่มนักธุรกิจชาวเมียนมา ได้เดินทางลงดูพื้นที่ก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าระบบราง และสถานที่ก่อสร้างท่าเรือบกกาญจนบุรี บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีวังเย็น อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
โอกาสนี้คณะทั้งหมดได้เดินทางไปยังอำเภอสังขละบุรี ดูพื้นที่เส้นทางเพื่อเตรียมในการพัฒนาใช้เส้นทางรางรถไฟจากกาญจนบุรี ออกไปยังประเทศเมียนมา จะช่วยในการขนส่งสินค้าต่างๆ ระหว่าง 2 ประเทศ สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อโครงการนี้สำเร็จ เนื่องจากปัจจุบันสินค้าภาคเกษตรของเมียนมา ผลผลิตกำลังออกมาก สินค้าต้องผ่านออกไปยังประเทศโซนเอเซีย และโซนยุโรป เช่นประเทศจีน เวียดนาม ฯลฯ. ระยะขนส่งทางยาว หากโครงการนี้สำเร็จจะย่นระยะทางการขนส่งได้มากกว่า และปัจจุบันนี้ขนส่งแบบโลจิสติกส์ ด้วยการขนส่งด้วยรถยนต์ขนาดใหญ่ กำลังเกิดปัญหาจากเส้นทางยังไม่สะดวก รถขนาดใหญ่ได้ก่อปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ และกระทบต่อการท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก
สำหรับบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด ได้เตรียมจัดทำโครงการไว้ 3 อย่างคือ เส้นทางรถไฟ เส้นทางเรือบก และเส้นทางอากาศ โดยเตรียมสถานที่ไว้พร้อมหมดแล้วทุกด้าน แต่การดำเนินการต้องให้เวลา แต่จะเริ่มเส้นทางรางรถไฟก่อนเป็นอันดับแรกบริเวณสถานีบ้านวังเย็น เพื่อเป็นคลังสินค้า ก่อนนำเข้าและออกไปยังประเทศต่างๆ คือ เมียนมา – เวียดนาม – ลาว – จีน – มาเลย์ และประเทศสิงคโปร์ ซึ่งบริเวณสถานีบ้านวังเย็น จะมีครบทั้งด่านศุลกากร สามารถตรวจสอบสินค้าเข้า- ออก ได้ทันที
โดยกลุ่มร่วมทุนชาวเมียนมา ได้ร่วมประชุมรับฟังการร่วมทุนของบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด ในครั้งนี้แล้วต่างก็พอใจ เตรียมจับมือเพื่อผลักดันโครงการคลังสินค้าบริเวรสถานีวังเย็น ซึ่งเป็นจุดที่ดีที่สุด สามารถนำสินค้าส่งไปยังจีน ลาว เวียนนาม มาเลย์ และประเทศสิงคโปร์ ทุกช่องทางสามารถเชื่อต่อนำมาเปลี่ยนถ่ายได้สะดวกที่สุด ซึ่งปัจจุบันสินค้าเข้ามาจากเมียนมา เช่นยางพารา ผลผลิตกำลัง ออกมามากเข้ามาเป็นแท่ง ดังนั้นก่อนจะนำส่งออกไปยังประเทศใด เราสามารถนำมาแปรรูปก่อนหลายรูปแบบ โครงการแห่งนี้สำเร็จการส่งออกจะใช้เวลาที่เร็วมากกว่าถึง 3 เท่า ในการนำสินค้า ออกไปในแต่ละประเทศ / เส้นทางรถไฟเสร็จ ถนนมอเตอร์เวย์ ทุกเส้นทางมีครบหมดแล้วจะเปิดใช้งานปลายปี 2568 สินค้าสามารถส่งไปยังจุดใหญ่ๆ /เช่นที่จังหวัดอยุธยา ต่อไปแหลมฉบัง
หลังจากที่คณะที่ได้ร่วมลงทุนของเมียนมา และ คณะร่วมลงทุนของไทยได้เดินทางไปยังด่านบ้านพระเจดีย์สามองค์ เพื่อดูพื้นที่ช่องทางเส้นทางรถไฟเดิม ในการเตรียมพัฒนาพื้นที่ช่องทางรถไฟ รวมถึงเตรียมจัดตั้งพื้นที่คัลงสินค้ารองรับในอนคต โดยคณะร่วมทุนของชาวเมียนมา ได้มีการพูดคุยปรึกษานอกรอบกันกับผู้ร่วมทุนว่า หากโครงการนี้สำเร็จแล้วอนาคตการส่งสินค้าภายในประเทศที่ได้ออกไปยังประเทศในโซนเอเซีย และยุโรป จะสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งที่เป็นอยู่ต้องผ่านออกไปใช้ระยะเวลานานมาก ทำให้สิ้นเปลืองทั้งเวลา และค่าสินไหมต่างๆ
โอกาสนี้ นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ ผู้บริหารบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด พร้อมคณะได้เยี่ยมชมบรรยากาศบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ วันนี้คึกคัก รถบรรทุกขนสิ่งสินค้าขนาดใหญ่ของพม่า ข้ามแดนเข้ามาขนถ่ายสินค้า บริเวณด้านข้างวัดพระเจดีย์สามองค์ โดยมีแรงงาชาวเมียนมาช่วยการขนถ่ายสินค้าจากรถบบรรทุกของผู้ประกอบการชาวไทย ขึ้นไปยังรถบรรทุกของผู้ประกอบการชาวเมียนมา โดยสินค้าที่ส่งออกมีทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค รวมทั้งสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก ประมง และน้ำมัน โดยปลายทางสินค้าส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของเมียนมา เช่นเมืองมูโด่ง มะละแหม่ง และย่างกุ้ง
จากเหตุการณ์ดังกล่าวในประเทศเมียนมา มีความไม่สงบภายในประเทศ ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าไม่สามารถขนส่งสินค้าได้ตามจุดผ่านพรมแดนต่างๆได้ ทำให้จุดผ่อนปรนทางการค้าและท่องเที่ยวด่านเจดีย์สามองค์ ผู้ประกอบการหันมาขนส่งสินค้ากันเป็นจำนวนมากกว่าที่ผ่านมา ตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นที่เรียบร้อย เพื่อที่จะขอเจ้าหน้าที่มาช่วยงานผ่านพิธีการศุลกากร เพื่อรองรับงานของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในส่วนของไตรมาสแรกปี 2567 สินค้าที่นำส่งออกส่วนมากจะเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง สุรา น้ำมันเชื้อเพลิง และของเบ็ดเตล็ดทั่วไป มูลค่า 3 เดือน 1,200 ล้านบาท เก็บภาษีเข้ารัฐได้ 40 ล้านบาทต่อปี