อุทัยธานี-ตำรวจทำดี..!!ช่วยชีวิตหญิงสาววัย 23 ปี หลังเกิดอาการชักเกร็งหมดสติอยู่ภายในรถ

ภาพ-ข่าว:วราภรณ์ จันทรังษ์

              ที่จังหวัดอุทัยธานี ภาพนาทีชีวิตที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี เร่งนำตัวหญิงสาวรายหนึ่ง ส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน หลังเกิดอาการชักเกร็งหมดสติ อยู่ภายในขณะรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า (วีโก้) สีดำ หมายเลขทะเบียน บต 5430 อุทัยธานี ซึ่งจอดอยู่บน ถ.ศรีอุทัย บริเวณหน้าตู้ ATM หน้าศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี ทราบชื่อผู้ป่วยคือ นางสาวอัชรพร สุขเอี่ยม อายุ 23 ปี ประชาชนในพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลเกาะเทโพ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งจุดเกิดเหตุนั้น ห่างจาก สภ.เมืองอุทัยธานี ประมาณ 100 เมตร และห่างจากโรงพยาบาลอุทัยธานี ประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งขณะนั้นไม่สามารถจะรอหน่วยกู้ชีพจากโรงพยาบาลอุทัยธานี หรือหน่วยกู้ภัยได้เพาระเป็นนาทีชีวิตที่ต้องให้การช่วยเหลืออดย่างด่วน
              ตำรวจจึงต้องทำหน้าที่หน่วยกู้ภัยและหน่วยกู้ชีพเอง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ขับรถยนต์ที่ผู้ป่วยขึ้นมา โดยได้ใช้วิธีการนำรถนำขบวนเปิดสัญญาณไฟวาบวาบนำ เพื่อเปิดเส้นทางการจราจรทุกจุดที่แล่นผ่านตั้งแต่หน้าศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี ถนนศรีอุทัย ไปทางตลาดริมน้ำ เข้าไปถึงวงเวียนห้าแยกวิทยุ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนท่าช้าง ตรงไปถึงสี่แยกไฟแดงวัดสังกัสรัตนคีรี เลี้ยวขวาไปจนถึงโรงพยาบาล อุทัยธานี และสามารถส่งถึงมือแพทย์พยาบาลได้ทัน ภายในเวลาประมาณ 3 – 4 นาที (จากปกติที่ต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 8-10 นาที) ทำให้หญิงสาวรายนี้สามารถพ้นขีดอันตรายได้อย่างเฉียดฉิว
              พ.ต.ท.สามารถ สุคง รองผู้กำกับการปราบปราม. สภ.เมืองอุทัยธานี เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือดังกล่าวจากประชาชนแล้วนั้น ทาง พ.ต.อ.สาทิตย์ ศรีหมื่นไวย ผกก.สภ. เมืองอุทัยธานี ได้มีการสั่งการให้การช่วยเหลือในทันที โดยได้มอบหมายให้ ตนเอง พร้อมด้วย ส.ต.ท.ศราวุฒิ จตุรภัทร์ ส.ต.ต.ธนากร เกิดด้วง สายตรวจ จยย. ชุดที่ 1 และ สายตรวจจราจร ซึ่งกำลังออกตรวจพื้นที่บนสายดังกล่าว โดยได้ใช้วิธีการล่นระยะเวลาการเดินทางด้วยวิธีการนำขบวนฉุกเฉิน
             โดยที่ตนเองนั้น เป็นผู้ขับรถยนต์ตำรวจเปิดสัญญาณไฟวาบ นำผู้ป่วยฉุกเฉินฯ และ ส.ต.ต.ศราวุฒิ จตุรภัทร์ เป็นผู้ขับรถยนต์ที่ผู้ป่วยอยู่ภายใน ส่วน ส.ต.ต.ธนากร เกิดด้วง เป็นผู้ขับรถ จยย. เบิกทางด้านหน้า พร้อมด้วย สายตรวจ จยย. ชุดที่ 1 และสายตรวจจราจร ช่วยกันจัดการจราจรตลอดเส้นทางนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลอุทัยธานี ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยลดระยะเวลาได้ดีที่สุด โดยในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่กำลังสัญจรอยู่บนท้องถนนเส้นดังกล่าวทุกรายด้วยเช่น จึงทำให้สามารถนำตัวผู้ป่วยส่งเข้ารับการรักษาได้อย่างปลอดภัย