สมุทรปราการ-สองหญิงปริศนาหิ้วถุงปุ๋ยใส่สุนัขมาทิ้งในลานจอดรถก่อนบิดมอไซค์หนี
ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 นายบุญส่ง นาครักษ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย พาผู้สื่อข่าวมาดู ถุงปุ๋ยใบหนึ่ง ที่ถูกทิ้งไว้บริเวณลานจอดรถเอกชนท้ายซอยวัดสำโรงเหนือ ตำบลสำโรงกลาง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีหญิงปริศนา 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ในช่วงเวลา 05.00 น ซึ่งในกระสอบปุ๋ยดังกล่าวมี สุนัขตัวเต็มวัย ตัวเมีย สีน้ำตาลดำ อยู่ในกระสอบปุยดังกล่าว โดยหญิงปริศนาได้แกะเชือกที่รัดปากถุงปุ๋ยออก ก่อนจะรีบขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบริเวณดังกล่าวไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ตอนนี้ สุนัขตัวดังกล่าว มีชาวบ้านบริเวณนี้ดูแลอยู่ แต่ไม่ยอมกินข้ากินน้ำ คอยแต่จะวิ่งหาเจ้าของ ซึ่งอยากให้หญิงปริศนาทั้ง 2 คน มารับสุนัขตัวดังกล่าวคืนไป
จากการสอบถาม นางรัตนา ธนูรักษ์ อายุ 56 ปี ผู้อาศัยอยู่ตึกใกล้เคียง และ เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองลงมาจากห้องพักในช่วงเวลา ตี 5 กว่า ๆ แต่ไม่แน่ใจว่าตี 5 เท่าไหร่ เพราะตี 5 ตนลงมาพอดี ตนจะลงมาช่วงเวลานี้ทุกวันเพื่อนมาออกกำลังกาย ตอนนั้นตนเห็นผู้หญิง 2 คน กำลังยืนคุยกันอยู่บริเวณนั้น พอช่วงเวลา 6 โมง ตนก็เลยเดินไปดูให้แน่ใจว่าในกระสอบมันคืออะไร แต่น้องหมาหลุดไปแล้ว ตนได้ยินเสียงร้อง แล้วน้องหมาก็วิ่งตามตนตอนที่กำลังวิ่งออกกำลังกายด้วย ตนก็เลยไล่มันหนี แต่มันก็ไม่หนี ตนแน่ใจว่าน้องหลุดมาจากในกระสอบตรงนี้ ตอนนั้นตนเห็นเขาถือกระสอบกันเข้ามาวางไว้ตรงทางเข้า ตอนแรกตนนึกว่าคนเอาของอะไรมาวางไว้เฉย ๆ แล้วจะไปเอารถ เพราะบริเวณตรงนั้นเป็นลานจอดรถ ตอนเห็นน้องหมาน้องไม่ได้มีอาการบาดเจ็บอะไร น้องร้อง แล้วก็วิ่งไปวิ่งมาตามคนแถวนี้เท่านั้น
ส่วน นายบุญส่ง นาครักษ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย เผยว่า ตนไปเจอกระสอบในช่วงเช้ามืดของวันที่ 22 พฤษภาคม ตนไปเจอกระสอบที่มีลักษณะโดนแก้เชื่อกออกแล้ว สุนัขมันก็วิ่งหาเจ้าของ แล้วก็โดนสุนัขตัวอื่นไล่กัด แต่น้องก็ไม่มีอาการบาดเจ็บอะไร ลักษณะเป็นสุนัขแก่ ชาวบ้านแถวนี้ก็ช่วยเอาอาหารเอาน้ำมาให้กิน แต่น้องไม่กิน แล้วก็วิ่งหาแต่เจ้าของ และ เท่าทีตนดูในกล้องวิดีโอ จะเห็นว่ามีผู้หญิง 2 คน คนหนึ่งเป็นคนแก่อีกคนเป็นสาว น่าจะเป็นแม่ลูกกัน ได้นำสุนัขมาปล่อยในช่วงประมาณตี 5 กว่า ๆ ตอนนั้นไม่มีคน แต่จะมีคนที่ตึกคนหนึ่งเห็นเหตุการณ์ว่าคนทั้งคู่กำลังแก้เชือก ก่อนจะรีบออกไปเลย ตนคิดว่าเป็นคนพื้นที่ใกล้เคียง เพราะถ้าเป็นคนข้างนอกจะไม่มาถึงที่นี่ ตนคิดว่าเขาคงเบื่อที่จะเลี้ยง พอสุนัขแก่แล้วก็ไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน ก็เลยนำสุนัขมาทิ้ง ตนอยากจะฝากถึงผู้ที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ว่าถ้าเลี้ยงเขาแล้วก็ช่วยดูแลเขาให้ตลอดลอดฝั่งไป ไม่ใช่เอามาทิ้งแบบนี้ น่าสงสาร ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย ส่วนตัวตนก็เลี้ยงสุนัขเหมือนกัน 3 ตัว เป็นพันธุ์บางแก้ว ป่วยติดเตียงอยู่ 2 ตัว แต่ตนก็ยังจะเลี้ยงต่อไป จนกว่าเขาจะจากไป
ด้าน นางสาวสุภาภรณ์ พ่วงสุนทร อายุ 46 ปี ชาวบ้านที่ช่วยสุนัขไว้ เล่าว่า ตนได้ยินเสียงสุนัขร้อง แล้วพอดีหลานได้ยิน ก็โทรมาหาตน บอกว่าจะเอายังไงดี เพราะน้องร้องโหยหวน น่าสงสารมาก เพราะเขาโดนจับใส่กระสอบมา ช่วงประมาณตี 5 คนที่เอามาปล่อยเป็นคนแกะเชือกเอาไว้เองเลย เพราะเขาเอาน้องใส่กระสอบมา แล้วมัดเอาไว้ในตอนแรก พอเอามาปล่อยตรงนี้เขาถึงแก้เชือกออก แล้วก็ปล่อยเลย ส่วนสุนัขตัวนี้เป็นตัวเมีย สีออกดำ ๆ น้ำตาล ขนสวย ตนคิดว่าเป็นหมาเลี้ยงแน่นอน และ ตนก็มั่นใจว่าเขาเอามาปล่อยทิ้ง เพราะมีกล้อง ดูกล้องก็ได้ ส่วนตัวเป็นคนที่รักหมาอยู่แล้ว พอเห็นตนก็ร้องไห้เลย ตนก็เลยเอาอาหาร เอาน้ำมาให้ ก่อนจะเข้าบ้าน แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้น้องไปไหนแล้ว ตนจะเอาเข้าบ้านก็ไม่ได้ เพราะในบ้านตนก็มีหมาด้วย ตนอยากจะฝากถึงเจ้าของหมาว่าถ้าไม่พร้อมหรือเลี้ยงเขาให้ดีไม่ได้ก็อย่าเอาเขามาเลี้ยง เพราะมันเป็นภาระของสังคม อีกอย่างมันเป็นบาปด้วย ตนไม่รู้หรอกว่าคุณจะเห็นเขาเป็นยังไงก็แล้วแต่ ตอนเล็ก ๆ คุณอาจจะมองเขาว่าน่ารัก แต่ไม่ใช่พอแก่ตัวคุณก็เอาเขามาปล่อยแบบนี้ อายุน้องน่าจะแก่แล้ว แล้วขาก็เจ็บด้วย ตนก็จะคอยดูว่าไม่ให้น้องเดินไปบ้านที่มีหมาเยอะ ๆ เพราะกลัวเขาจะปล่อยหมาออกมาแล้วโดนรุมกัด เมื่อเช้าตนก็ยังตามหาน้องอยู่เลย เพราะฝนมันตก แล้วอยากจะเอากลับมาให้ข้าวให้น้ำกินด้วย ตนก็อยากจะบอกว่าถ้าไม่พร้อมอย่าเอามาเลี้ยง