ปราจีนบุรี-( คืบหน้า)หน่วยงานรัฐเร่งให้กำลังใจ กรณี ตา-ยาย ถูกหลอกเซ็นชื่อเป็นหนี้ 30 ล้าน
ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ / ทองสุข สิงห์พิมพ์
เมื่อเวลา 15.10 น. วันนี้ 25 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่ ได้รับเรื่องร้องทุกข์ชาวบ้าน จาก น.ส.วาสนา สายแก้ว ชาวบ้าน ม.13 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ว่ามีญาติตนเอง 2 ตา – ยายถูกหลอก ให้เอาโฉนดที่ดินไปค้ำประกันคน แต่ถูกหลอกขายฝาก จำนวนเงิน 30 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2561 แต่เพิ่งทราบเรื่องเมื่อปี 2567นี้ หลังทราบเรื่องสองตายายเครียดและป่วยหนัก วางแผนที่จะใช้ยาคลุกข้าวให้สามีกินและจะกินยาตายตามกันไป เพื่อนบ้านบอกว่ายายที่อยู่บ้านติดกันเดินมาบอกว่าเครียดมากไม่มีใครช่วยเหลือได้ ถูกหลอกให้เซ็นเอาโฉนดที่ดินไปขายฝากสองตายายกินไม่ได้นอนไม่หลับแล้วป่วยมีโรคประจำตัว รู้สึกสงสารจึงหาทางติดต่อผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับสองตายายผ่านทางสื่อมวลชนด้วยตามรายละเอียดที่ได้เสนอไปก่อนหน้านี้ นั้น
โดย 2 ตา – ยายคือ คุณประเสริฐ พุทธา อายุ 83 ปี สามี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 13 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และยายบุญธรรม วงษ์เสนา อายุ 67 ปี ถูกนายโชคชัย (ขอสงวนนามสกุล)หลอกให้เซ็นเอกสารค้ำประกันคดี ที่ข้างสำนักงานที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี อ.เมืองปราจีนบุรี โดยตาประเสริฐยอมรับว่า ขณะที่เซ็นเอกสารจากนายโชคชัยที่เอามาให้เซ็นไม่ได้ดูและไม่ได้อ่าน เนื่องจากว่าสนิทสนมกับนายโชคชัยมาร่วม 10 ปี กระทั่งต่อมาปี 2567 ทางเจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งนำเอกสารมาบอกว่าขอให้ย้ายออกจากบ้านหลังนี้เนื่องจากได้สิ้นสุดสัญญาการขายฝากเป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท จากนั้นทั้งสองก็ล้มป่วยกระทันหัน และได้ไปแจ้งความไว้ ได้ไปแจ้งความกับ พ.ต.ต.โสภณ จีนะสุทธิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2567ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรีสถานที่เกิดเหตุ หลังทราบเรื่องแล้วไม่สามารถติดต่อนายโชคชัยได้เลย และไม่รู้จักบ้าน – ญาติของนายโชคชัยแต่อย่างใด
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (25 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวลงมาพบคุณตาประเสริฐ พุทธา สามีและ ยายบุญธรรม วงษ์เสนา ภรรยา พบว่า มีกำลังใจดีขึ้นเนื่องจากมีส่วนราชการจังหวัดปราจีนบุรี และ ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาพูดคุยและให้คำแนะนำถึงเรื่องดังกล่าว โดยทั้งสองยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าที่ผ่านมาไม่ได้ดูเอกสาร ที่นายโชคชัยให้เอามาเซ็น มาทราบในภายหลังว่าถูกหลอกให้เซ็นเอกสารค้ำประกัน ที่แท้ให้เซ็นเอกสารขายฝากที่นายโชคชัยดำเนินการเองแต่เพียงผู้เดียว
นางกฤษณา ขอสงวนนามสกุล(ลูกสาว)ตาประเสริฐ ได้ยืนยันว่า เรื่องทั้งหมดไม่มีใครรู้ มารู้อีกทีว่าพ่อได้เซ็นเอกสารขายฝากให้กับร้านทองแห่งหนึ่ง เป็นจำนวนเงิน30 ล้านบาท ซึ่งทุกคนช็อค!กับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่เชื่อแต่ก็ต้องยอมจำนนเชื่อ ด้วยหลักฐานเพราะลายเซ็นของพ่อ ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง ตาประเสริฐได้รู้จักสนิทสนมกับนายโชคชัยมาว่า 10 ปี สมัยนั้นตาประเสริฐ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน และได้เซ็นค้ำประกันกับญาติของนายโชคชัย กระทั่งมารู้ในภายหลังว่านายโชคชัยได้ทำเอกสารที่ดินไปขายฝากให้กับร้านทองเป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท
นายไพบูลย์ ลูกชายกล่าวว่า ที่ผ่านมาลูกๆไม่ทราบเรื่องมาก่อน ให้ดูเอกสารว่ามีลายเซ็นของพ่อเซ็นขายฝากที่ดินกับร้านทองแห่งหนึ่ง ขณะนี้ทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองก็ไม่เคยเห็นหน้านายโชคชัยหลังเกิดเหตุการณ์แล้ว อยากฝากถึงนายโชคชัยขอให้ออกมารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย