สมุทรปราการ-พนักงานดับเพลิงด่านสำโรงคลั่ง..!!คว้ามีดไล่แทงเพื่อนคาวงเหล้า ดับ 1 เจ็บ 3
ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 13 มิถุนายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ภายในซอยด่านสำโรง 45/1 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ภายในบ้านพักหลังหนึ่งกลางซอย พบ นาย ฐฺติพันธุ์ จตุรานนท์ อายุ 42 ปี นอนหมดสติ ไม่มีลมหายใจ ถูกอาวุธมีดแทงที่กลางศีรษะ และหลังใบหู ทั้งกู้ภัยและนักข่าวต้องช่วยกันปั้มหัวใจอยู่นาน 20 นาที แต่ไม่เป็นผลยืนยันเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ช่วงบริเวณกลางซอย ยังพบผู้บาดเจ็บอีกรายถูกแทงตามร่างกายอาการสาหัส และที่บริเวณกลางซอยด่านสำโรง 47 ซึ่งอยู่ถัดไปอีกซอย มีชายรายหนึ่งถูกแทงเข้าตามลำตัวหลายแผลจนอาการสาหัส ซึ่งรายนี้ได้วิ่งหนีตายปีนข้ามรั้วมาอีกซอย เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลือส่งโรงพยาบาล จากเหตุการณ์ดังกล่าวยังพบว่ามีผู้บาดเจ็บอีกราย ซึ่งถูกตามมาแทงถึงในเทศบาลด่านสำโรง ซึ่งอยู่ในซอยถัดไปไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเร่งให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งสามรายส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วนผู้ก่อเหตุหลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน นั่งรอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ ทราบชื่อต่อมา คือ นายวรชิต(หรือมายด์) อ่อนเอื้อน อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นพนักงานดับเพลิงของทางเทศบาล เจ้าตัวยังร้องไห้โวยวายอย่างไม่มีสติ จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าเกลี้ยกล่อมและปลอบใจเพื่อให้ผู้ก่อเหตุสงบสติอารมณ์ ก่อนจะคุมตัวไปสอบสวนต่อที่โรงพัก
นายมายด์ (ผู้ก่อเหตุ) หลังก่อเหตุได้นั่งรอมอบตัวใกล้บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่ง นายมาย ยังคงอยู่ในอาการ ร้องไห้โวยวาย และพูดตะโกนออกมาว่าผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ พี่อยากเห็นผมบ้าไม่ใช่หรอ ผมบ้าให้ดูแล้วไง ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นผู้ก่อเหตุบอกว่ากดดันเรื่องที่ทำงาน ถูกเพื่อนเยาะเย้ย
จากการสอบถาม นายวันชัย ตระวะแสง อายุ 35 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ผมก็ไม่รู้ตอนนั้นก็เข้าห้องน้ำอยู่ ได้ยินเสียงเขาทะเลาะกันเสียงดัง จึงวิ่งออกมาดู และเห็นโดนแทงนั่งอยู่ ถามเขาก็บอกว่ามีการแทงในบ้านอีก แต่ไม่รู้ว่ากี่คนผมจึงรีบโทรแจ้งกู้ชีพ เบื้องต้นเห็น นายมายด์ (ผู้ก่อเหตุ) บอกว่าเกิดจากการกดดันอะไรไม่รู้ เพื่อนร่วมงานกดดันเขา เพื่อนฝูงหัวเราะเยาะเขา เขาน่าจะเครียด เพราะปกติ นายมายด์ (ผู้ก่อเหตุ)ไม่เคยเป็นแบบนี้ ซึ่งกลุ่มที่โดนแทงก็เพื่อนเขาไม่หมดเลย 4 คน ผมก็ไม่รู้เพื่อนเขาทำงานอะไร คนที่้เสียชีวิต น่าจะโดนแทงคนแรก คนที่อยู่ข้างนอก คนล่าสุด โดนแทงในบ้าน คนดับเพลิงคนสุดท้าย ที่นายมายด์ (ผู้ก่อเหตุ) ปีนข้ามไปแทงที่เทศบาล ทั้งหมด เจ็บ 3 คน และเสียชีวิต 1 ราย ซึ่ง นายมายด์ (ผู้ก่อเหตุ) ก็เพิ่งจะได้เข้าทำงานดับเพลิงเมื่อไม่นานนี้เอง
นางสาวจิรวรรณ พุ่มโพธิ์ อายุ 33 ปี ลูกพี่ลูกน้องของ นายมายด์ (ผู้ก่อเหตุ) (เสื้อขาว) เผยว่า ตนและคนแทงเป็นพี่น้องที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เขาทำงานเป็นดับเพลิงเทศบาล เขาบอกว่าไปทำงาน แล้วเพื่อนร่วมงานที่รู้จักกับทางเทศบาล เขาเหมือนฝากงานเข้าไปให้แล้วก็เหมือมาหักหลังเขา เขาก็เลยแค้นใจ ก็เลยมีปัญหากัน เขาก็หาว่าร่วมกันลักของหลวง เพื่อจะบีบเขาออกจากงาน เขาก็เลยแค้นและมาก่อเหตุ
นายเอ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่านาทีที่ นายมาย (ผู้ก่อเหตุ) อยู่ในอาการคุ้มคลั่งและก่อเหตุ โดยบอกว่า ตอนนั้นตนเองและเพื่อนรุ่นพี่จอดรถคุยกันอยู่กลางซอย หลังจากที่นายมายก่อเหตุแทงผู้เสียชีวิตแล้ว ได้เดินออกมานอกบ้านตรงปรี่เข้ามาหากลุ่มตนเอง แล้วผลักคอรุ่นพี่ และพยายามจะแทงรุ่นพี่ ตนเองจึงตะโกนเรียกชื่อผู้ก่อเหตุ เพราะรู้จักคุ้นเคยกันดีในซอย หลังจากที่เรียกนายมาย และเตือนสติผู้ก่อเหตุ จนอารมณ์สงบลง ผู้ก่อเหตุจึงขอบุหรี่สูบ หลังจากนั้นตนจึงขับรถออกไปปากซอย แต่พอหันหลังกลับมาพบว่านายมาย ได้ก่อเหตุแทงอีกคนตรงกลางซอย จนบาดเจ็บไปอีกคน ก่อนจะเดินโวยวาย คล้ายกับคนขาดสติ พูดทำนองว่าใครแทงข้างหลังกู ส่วนตัวแล้วตนเองรู้จักรนายมายดี ปกติจะเป็นคนอารมณ์ดีไม่มีพิษมีภัยกับใคร ส่วนสาเหตุที่ผู้ก่อเหตุทำลงไปนั้น มองว่าอาจเกิดจากความเครียดสะสมและเก็บอารมณ์มานาน
พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ บอกว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าที่เกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของ นายมาย ผู้ก่อเหตุเอง โดยนายมายและเพื่อนซึ่งรวมถึงคนตายและคนเจ็บทั้งหมดรวม 4 คนนั่งกินเบียร์กันอยู่หน้าบ้านก่อนที่นายมายจะเกิดอาการคุ้มคลั่งลงมือก่อเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นไปก่อเหตุซ้ำในเทศบาลอีกราย ซึ่งสาเหตุและชนวนเหตุคาดว่ามาจากเรื่องส่วนตัวในที่ทำงาน เบื้องต้นให้ฝ่ายสืบสวนคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพักก่อน เพื่อรอสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงจะต้องเข้าสอบปากคำกับผู้บาดเจ็บด้วยเช่นกัน ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุ เป็นมีดปลอกผลไม้ปลายแหลม ที่วางอยู่ใกล้กับวงสุรา ขณะที่สั่งปิดกั้นพื้นที่รอให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลังฐานมาเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง